November 25, 2024

อุทาหรณ์บ้านมือสอง ลูกแอบขายบ้าน ทิ้งแม่ติดเตียง พ่อป่วยหนักไว้

 

 

 

 

 

สะเทือนใจ!! ลูกชาย แอบขายบ้าน 1.6 ล้าน ทิ้ง​แม่ป่วยติดเตียง พ่อป่วยท้าวแสนปมอยู่บ้าน เจ้าของใหม่ มึน ไม่ยอมย้ายออก

กลายเป็นเรื่องราวที่ไม่รู้ว่าจะสงสารใครดี โดยสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ หลังจากซื้อบ้านมือสอง แต่พบว่า ลูกชายนั้นแอบขายบ้านไม่บอกพ่อแม่ ก่อนหนีหาย ทิ้งพ่อแม่ที่ป่วยติดเตียงไว้ที่บ้าน เจ้าของใหม่ จ่ายดอกไปเรื่อยๆ ทำอะไรไม่ได้ ​

โดย นายชานนท์ ผลชู เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า ตนทำอาชีพซื้อขายบ้าน จะซื้อมารีโนเวทแล้วขาย ตอนซื้อบ้านหลังนี้ ถูกประกาศบนเฟซบุ๊ก เจ้าของคือลูกชาย ตนสนใจจึงนัดหมายดูบ้าน เห็นว่าเลี้ยงหมาไว้ 1 ตัวและค่อนข้างดุ จึงคุยกันที่หน้าบ้าน ได้รายละเอียดแล้ว จึงเข้าไปดูในบ้าน ก็พบคุณตาคุณยายอยู่ในบ้านด้วย และบอกว่าให้คุยกับลูกชาย ว่าอย่างไรก็อย่างนั้น

นายชานนท์ กล่าวว่า ตอนนั้น บ้านถูกประกาศขายในราคา 1,450,000 บาท แต่ตนต้องออกค่าดำเนินการเองทั้งหมด ค่าโอน ค่านายหน้า ค่าดำเนินการรวมๆแล้ว 1,600,000 บาท ในการซื้อบ้านหลังนี้ ตนเข้าใจว่า ตายายน่าจะเข้าใจว่า เป็นการกู้ยืมเงินธรรมดา ไม่คิดว่าเป็นการขายบ้าน หลังจากซื้อขายแล้ว ลูกชายแจ้งว่าจะย้ายออกใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งตนให้เวลาเพราะมีคนแก่ คนป่วยในบ้าน

อุทาหรณ์บ้านมือสอง ลูกแอบขายบ้าน ทิ้งแม่ติดเตียง พ่อป่วยหนักไว้

“หลังจากผ่านไป2อาทิตย์ ผมเข้าไปดูก็ยังไม่เห็นว่ามีการเก็บของอะไรเลย จึงได้พยายามโทรตามกับลูกชาย ก็มีแต่พูดว่าเดี๋ยวย้ายออกให้ แล้วก็ผลัดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายติดต่อลูกชายเขาไม่ได้เลยบล็อกเบอร์ไปในตอนนั้น ก็เลยเหลือแค่คุณตาคุณยายอยู่ที่บ้าน”

นายชานนท์ กล่าวว่า เมื่อเข้าไปกับตายาย ก็บอกแค่ว่ารอลูกชายกลับมาก่อน ตนก็ได้อธิบายให้คุณตาคุณยายฟังว่าบ้านหลังนี้ได้มีการซื้อขายให้กับตนแล้ว แต่ตนก็เข้าใจคุณตาคุณยายไม่สบายพร้อมถามว่าติดต่อลูกชายได้หรือยัง เขาก็บอกว่าติดต่อไม่ได้เลย ซึ่งตัวคุณตาคุณยายเองก็รู้ว่าต้องย้ายออก

แต่ปัจจุบันนี้ระยะเวลาผ่านไปเกือบ1 ปีอีกแค่ 2 เดือนก็ครบแล้วคุณยายก็มักจะบอกว่าขออยู่ถึงสิ้นเดือนหน้าและพูดแบบนี้มาเรื่อยๆ ตนก็สงสารปล่อยไปเรื่อยๆไม่รู้จะทำยังไงดี ซึ่งตอนนี้พอมันผ่านไปถึงเกือบ1ปี ตนก็เริ่มที่จะไม่ไหวเพราะต้องจ่ายทั้งค่าดอกเบี้ย และต้นทุนอื่นๆก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตนก็พยายามช่วยให้ถึงที่สุดแต่ตนก็ต้องช่วยตัวเองด้วย

“​ผมพยายามเสนอเงื่อนไขช่วยเหลือหลายๆอย่าง แต่ก็เหมือนว่าเขายังรักบ้านหลังนี้เพราะว่าเขาเก็บเงินมาทั้งชีวิต มาซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินสด ไม่คิดว่าลูกชายจะเอาไปทำแบบนี้”

นายชานนท์ กล่าวต่อว่า โดยก่อนหน้าที่ตนจะมาซื้อบ้านหลังนี้ ลูกชายเขาได้เอาบ้านหลังนี้ไปจำนองขายฝากกับนายทุนก่อนแล้ว พอใกล้จะโดนยึดเขาจึงนำมาขายให้กับตน ซึ่งลูกชายเขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้เองทั้งหมดเขาอาจจะบอกคุณตาคุณยายว่าจะเป็นคนจัดการเอง จึงทำให้คุณตาคุณยายไม่ทันคิดว่าจะโดนขายบ้านแบบนี้

โดยล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาลูกชายเขาติดต่อกลับมาแล้วหลังจากเป็นข่าว และแจ้งกับตนว่าจะมาวันอังคารนี้เพื่อพาคุณพ่อคุณแม่ย้ายออก ตนจึงได้แจ้งว่าถ้าเกิดว่าเขากลับมาอยากให้ไปหาพ่อแม่ก่อนเลย ไปคุยกันก่อนและลองไปหาบ้านเช่าดูว่าหลังไหนที่คุณพ่อคุณแม่จะโอเคแล้วอยากอยู่ แล้วค่อยนัดกันเจรจากัน ซึ่งตนก็ยินดีที่จะช่วยเหลือในการจ่ายค่าเช่า ช่วยจ่ายค่าขนย้าย

“ผมจำเป็นต้องให้เป็นการเจรจาครั้งสุดท้าย เพราะทั้งที่ตามกฏหมายแล้วนั้นสามารถที่จะดำเนินการได้เลย แต่ยังอยากเจรจาช่วยเหลือคุณตาคุณยายก่อน ซึ่งคุณตาคุณยายก็มักจะตัดพ้อเรื่องลูกชายอยู่ตลอดผมก็สงสาร และเคยได้ยินคุณตาคุณยายพูดถึงลูกชายว่าลูกชายติดหนี้พนันออนไลน์ และมาบอกพ่อกับแม่ว่าจะไปเปิดร้านอาหารจะขอเอาบ้านเข้าไปขายฝาก แม่ก็อยากให้ลูกชายได้มีกิจการก็เลยยอมเซ็นมอบให้ลูกชายไป”

สุดท้ายนี้ ตนอยากให้เขากลับมาหาคุณพ่อคุณแม่เพราะเขารักบ้านหลังนี้ อยากให้เขากลับมาคุยกันตรงๆ ขอโทษพ่อกับแม่ดีกว่าหนีไปแบบนี้ เหมือนมาทิ้งให้เขาอยู่บ้านทั้งๆที่ตนว่าทุกอย่างมันคุยกันได้ และไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *