สำหรับการจากไปของพระเอกร้อยล้าน บรรยากาศงานฌาปนกิจ “เมฆ วินัย ไกรบุตร” ครอบครัวเคลื่อนโลงออกจากศาลาขึ้นเมรุ โดยมี “เอ๋” ภรรยา ถือกระถางธูป และ “น้องแมม” ลูกสาวคนที่สองถือรูป และน้องมาร์ค ลูกชายคนโต บวชหน้าไฟ ครอบครัวและเพื่อนๆ ในวงการยังโศกเศร้า ทั้งนี้มีนักแสดงเรื่องบางระจัน ที่เคยร่วมงานกับ “เมฆ วินัย” แต่งกายเป็นชาวบ้านบางระจันมาร่วมไว้อาลัย รวมถึงเพื่อนๆ นักวิ่งก็เช่นกัน
ทั้งนี้ในช่วงที่ครอบครัวถวายผ้าบังสุกุล “เอ๋ อรชัญญาช์” ภรรยาของ “เมฆ วินัย” ก็ร้องไห้ออกมา วินาทีนั้น ลูกสาวคนเล็ก ได้เอ่ยถามแม่ว่า “มามี้เสียใจเหรอ ที่ปะป๊าต ายเหรอ ปะป๊ะอยู่ในโลงนี่แล้วเหรอ” จากนั้น ลูกสาวคนเล็กได้กอดปลอบแม่ แล้วยังเช็ดน้ำตาให้อีกด้วย สำหรับบรรยากาศในวันนี้ ทีมประชาชนจากบ้านบางระจัน ร่วมแสดงรำดาบบ้านบางระจันเพื่อเป็นอาลัยที่บริเวณหน้าเมรุ และมีเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการมาร่วมอาลัยล้นหลาม อาทิ หนุ่ม คงกระพัน, เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์, ถั่วแระ เชิญยิ้ม ,เต๋า สมชาย, ยิ่งยง ยอดบัวงาม ฯลฯ
และสำหรับเมื่อคืนวันที่ 26 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา คนบันเทิงได้จัดคอนเสิร์ต เพื่อนมีไว้ทำไม?
ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวเมฆ วินัย หลังเจ้าตัวเสียชีวิต นำโดย “หนุ่ม คงกระพัน แสงสุริยะ” เพื่อนสนิทในวงการ โดยมีการรวมนักร้องยุค 90 จำนวนมาก มีไฮไลต์บนเวทีที่ทำแฟนๆ ประทับใจ คือการที่ “น้องมาร์ค” ลูกชายคนโตของเมฆ ขึ้นเวทีร้องเพลงเพื่อระลึกถึงพ่อผู้จากไป งานนี้ “เอ๋ อรชัญญาช์ ไกรบุตร” ภรรยาของเมฆ วินัย ได้เปิดใจต่อสื่อมวลชน วันนี้ดีใจแทนเมฆ อยากให้ไปอย่างมีความสุข พร้อมเผยถึงหนี้สินของเมฆ ที่มีอยู่ 8 ล้าน ตั้งเป้าเคลียร์หนี้ให้หมดภายในปีนี้
วันนี้ก็ดีใจแทนพี่เมฆนะคะ ถ้าเขายังอยู่เขาคงเป็นปลื้ม จริงๆ เขาก็รู้ว่าเพื่อนเขาเยอะ แต่เขาไม่รู้ว่าเพื่อนรักพี่เมฆมากแค่ไหน วันนี้ถ้ามองอยู่พี่เมฆก็คงจะดีใจค่ะ ก็เกินคาดนะ ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ค่ะ ก็มีกำลังใจค่ะ ที่ทำให้เห็นว่าพี่เมฆไม่ต้องเสียใจแล้ว และถ้ายังอยู่ ถ้ายังได้ยินก็อยากให้รู้ว่าให้ไปอย่างมีความสุข เพราะพวกเราก็จะใช้ชีวิตของพวกเราอย่างดีที่สุดเหมือนกัน” เผย “น้องมาร์ค” ขาสั่นขึ้นร้องเพลง ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ “อันนี้เกินคาดค่ะ (หัวเราะ) เป็นเวทีใหญ่ครั้งแรกเลยค่ะ เขาก็ตื่นเต้นมาก เพราะก่อนจะขึ้นเวทีเขาสั่น เขาตื่นเต้นมาก เขาไม่คิดว่าเวทีจะใหญ่ขนาดนี้ และเจอคนเยอะขนาดนี้ เขาชัดเจนตั้งแต่เล็กๆ เลย จริงๆ พี่เมฆอยากให้เขาเป็นนักแสดง พี่เมฆก็เป็นโค้ชแอ็กติ้งให้ตั้งแต่เขายังเล็กๆ ก็จะมีคลิปที่พี่เมฆสอนลูกแอ็กติ้งอยู่ แต่เขาบอกพ่อว่าเขาไม่ชอบเลย เขาอยากเป็นนักร้อง เขารู้สึกว่าเขามีความสุขเวลาเขาร้องเพลง เอ๋เห็นวันนี้ก็เกินคาด ไม่คิดว่าวันนี้เขาจะร้องได้ดี
และคนที่ฟังอยู่และชื่นชมในตัวพ่อเขาก็ส่งผลมาชื่นชมลูกด้วยค่ะ หนุ่ม คงกระกัน แสงสุริยะ และ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เป็นห่วง หวั่นดิ่งหลังจากนี้ ยันร้องไห้วันเผาเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ”พี่หนุ่มเขาเป็นห่วงมาก จริงๆ ไม่ใช่พี่หนุ่มคนเดียวหรอก ทั้งโตโน่และหลายๆ คนที่มาคุย เขาก็กลัวว่าหลังจากช่วงยุ่งๆ นี้มันก็จะเป็นช่วงที่เงียบ เขาก็กลัวว่าเราจะดิ่ง แต่อยากจะบอกว่าเราไม่ดิ่งหรอก เพราะเรามีเป้าหมาย คือจะร้องไห้วันที่เผาพี่เมฆเป็นครั้งสุดท้าย และจะพยายามไม่ร้องแล้ว” ลอยอังคารเมื่อเช้าที่ผ่านมา ลูกๆ ได้เห็นพ่อครั้งสุดท้าย สานต่อธุรกิจ ที่อยากให้เขาภูมิใจ ”ก็ได้ส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย น้องเมิร์ช น้องมาร์ค น้องแมม ก็เห็นคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนก็อยากให้พ่อเขาไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ จริงๆ ไม่อยากหยุดเหนื่อยนะ เพราะถ้าหยุดเหนื่อยก็ต้องอยู่คนเดียว ก็อยากจะให้มันยุ่งๆ เข้าไว้ค่ะ ก็ต้องลุยงานทำงานไป ตอนนี้ก็มีจะเปิดบริษัทเพิ่มนะคะ แล้วก็มีโรงงานผลิตอาหารเสริม
ผลิตเครื่องสำอาง และกำลังดูเกี่ยวกับการส่งออกอยู่ค่ะ กำลังคุยกันไว้หลายทีมพอสมควร เพราะจริงๆ แล้วเป็นแพลนที่เอ๋วางไว้ก่อนที่พี่เมฆจะไป แต่เอ๋ยังไม่ได้คุยกับเขา เพราะเห็นว่าเขายังไม่ได้อยู่ในโหมดที่คุยกับเราได้ แต่ก็วางแผนไว้ก่อน เพราะเอ๋รู้ว่าช่วงนั้นเราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะ เอ๋ก็อยากจะให้เขาภูมิใจและให้เขากลับมาแข็งแรงได้เร็ว แต่มันก็กลายเป็นว่าเขาจากไป แต่เราก็ยังต้องสานต่อค่ะ” อยากเคลียร์หนี้เมฆให้สะอาด ประมาณ 8 ล้าน ภายในปีนี้ เมฆหยิบยืมรักษาตัว
จริงๆ เป็นเรื่องหนี้สินมากกว่าค่ะ เพราะเรื่องการศึกษาของลูกๆ เอ๋มองว่าถ้ายังทำงานต่อไปก็ยังสามารถเก็บเงินส่งลูกเรียนได้ แต่ในส่วนหนี้สินของพี่เมฆ เอ๋ก็อยากจะเคลียร์ให้มันสะอาด จริงๆ ปีนี้ก็ตั้งเป้าหมายไว้ว่าถ้าเป็นไปได้จะเคลียร์หนี้เขาให้หมด ก็ประมาณ 7-8 ล้านค่ะ ก็อยากจะเคลียร์ให้หมดภายในปีนี้ค่ะ จริงๆ คนเรามันต้องมีเป้าหมายก่อน และเราก็จะรู้สึกว่าเราต้องทำมันให้สำเร็จ
มันเป็นก้อนที่พี่เมฆเขาก็รู้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนเอ่ยปากหยิบยืมมา และเป็นส่วนที่เขาใช้รักษาตัวเอง จากการที่ต้องซื้อพวกอุปกรณ์ต่างๆ ถ้าเคยไปสัมภาษณ์ที่บ้านก็จะเห็นว่าอุปกรณ์พี่เมฆค่อนข้างเยอะและใช้เปลือง แต่เราก็ต้องเน้นความสะอาด เพราะที่ผ่านมา 5 ปีเขาไม่เคยติดเชื้อเลย อย่างของใช้ของเขาทั้งหมดเอ๋ก็ซักด้วยน้ำร้อนหมด อาบน้ำ ทำแผลเขา พวกน้ำเกลือก็ใช้วันนึงเป็นลังๆ เรามั่นใจเลยว่าการดูแลของเรา เขาไม่มีทางติดเชื้อ แต่ที่ติดเชื้อที่ผ่านมามันเป็นเพราะว่าเขาไปลอกหนังตัวเองออกหมด”
ยินดีหากมีคนในวงการเข้ามาช่วยเหลือ
ยินดีค่ะ พร้อมเสมอค่ะ เอ๋อยากทำงาน อยากให้ยุ่ง อยากหาเงินให้ได้เยอะๆ เอ๋ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี ตอนนี้เอ๋ไม่โฟกัสเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องหาเงินกับเรื่องการส่งลูกให้เรียนสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ คืออนาคตของลูกๆ มาเป็นอันดับหนึ่งตอนนี้ค่ะ