เปิดใจหนุ่มขี่เวฟ จากสุรินทร์ไปจีน เผยค่าน้ำมันทั้งทริป ระยะทาง 2,500 ก.ม. เล่านาทีเหยียบหิมะ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ทำตามฝันสำเร็จ ลั่น “ถ้าใจถึง มันจะพาเราไป”
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ป่าน แก้วปลั่ง โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “2,589 กม.จากสุรินทร์ นี่คือหิมะครั้งแรกของผมและเห่าดง จัดไปสักครั้งในชีวิต เวฟมันทำได้เชื่อดิ” โดยเจ้าของโพสต์เป็นชาว จ.สุรินทร์ ขี่จักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ ที่เขาตั้งชื่อว่าเห่าดง จากสุรินทร์ไปถึงเมืองจีน เพื่อตามล่าความฝันขับรถบนหิมะ
เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 นายป่านศิระ แก้วปลั่ง เจ้าของคลิปเปิดเผยกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ ระบุว่า ทริปนี้เป็นการรวมตัวเฉพาะกิจ ของคนที่ชอบท่องเที่ยว ซึ่งคนในทริปบางคนเป็นอินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยเมื่อประมาณ 4 เดือนที่แล้ว พี่บอล พาเที่ยว อินฟลูเอนเซอร์สายท่องเที่ยว มาชวนให้เอารถจักรยนต์ขนาดเล็กขี่ไปที่หิมะ โดยจุดเริ่มต้นของทริปนี้ของตนอยู่ที่สุรินทร์ เพื่อไปยังเมืองลี่เจียง ประเทศจีน เริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.67 โดยมีเป้าหมายอยากจะขี่รถจักรยานยนต์ฮอนเวฟของตน ‘เห่าดง‘ ไปเหยียบหิมะสักครั้งในชีวิต ซึ่งทริปของตนมีผู้ร่วมเดินทาง ทั้งหมด 17 คัน ระยะทางรวม 2,589 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 7 วัน และวันที่ 28 ม.ค.จะเริ่มเดินทางกลับ
ตอนแรกตนและทุกคนในทริปสงสัยว่ารถเล็กแบบนี้จะขี่ข้ามประเทศไปได้จริงหรือไม่ แต่สามารถทำได้จริง ๆ และตลอดระยะเวลา 7-8 วัน ก็ยังไม่พบปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถ จนทำให้ไม่สามารถเดินทางไปต่อได้ มีเพียงปัญหาเล็กน้อยเช่นยางรั่ว หรือ สตาร์ทเครื่องติดยาก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในรถปีเก่าๆ
นายป่าน กล่าวต่อว่า รถจักรยานยนต์ขนาดเล็กแบบนี้ ไม่สามารถขึ้นทางด่วนได้ ต้องใช้ถนนตามชนบท จึงทำให้ได้เห็นวิวและบรรยากาศข้างทางที่เต็มไปด้วยหิมะ เมื่อเห็นแบบนั้นตนก็ใจชื้น คิดว่าตัวเองใกล้จะถึงเป้าหมาย และเมื่อไปเหยียบหิมะจริง ๆ ตนถึงกับน้ำตาไหล ไม่ได้สติ จนพูดไม่รู้เรื่อง
นายป่าน กล่าวต่อว่า ตลอดทริป ตนไม่เคยท้อ เพราะตลอดข้างทางตนได้เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่อุปสรรคหลักของตนคือเรื่องของสภาพอากาศ เพราะอากาศแปรปรวนรุนแรงมาก ในหนึ่งวันอากาศสวิงมาก เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝนตก ถ้าหากว่าเตรียมตัวมาไม่ดีก็อาจจะแย่ได้เหมือนกัน
นายป่าน กล่าวว่า สำหรับค่าน้ำมันนั้นไม่ค่อยต่างจากที่ไทยมาก อยู่ที่ลิตรละประมาณ 40 บาท รวมแล้วค่าน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาททั้งรวมทริป ตนคิดว่าการเดินทางมาแบบนี้น่าจะแพงกว่าเหนื่อยกว่าการเดินทางมาด้วยเครื่องบิน แต่แบบนี้สนุกกว่า และคุ้มมาก ไม่รู้ว่าชีวิตตนจะมีโอกาสได้ทำแบบนี้อีกหรือไม่
นายป่าน กล่าวต่อว่า ตนมองว่าสำหรับทริปนี้ หากใครใจไม่ถึง อาจจะจอดกลางทาง หรืออาจจะวนกลับไปแล้ว แต่ถ้าเรามีใจ และตั้งใจจริงๆ ตนว่ายังไงใจมันก็พาเราไปถึง
อย่างไรก็ตามที่ตนลงโพสต์ไปนั้น ตั้งใจให้เพื่อนมาแซว แต่ตอนนี้มันไปไกลกว่าที่คิดเยอะมาก ตนต้องขอบคุณทุกคน
“อยากฝากถึงคนที่อยากจะไปเที่ยวไกลๆ บางคนคิดว่าจะต้องมีบิ๊กไบก์หรือรถยนต์ หรือต้องรอให้พร้อมก่อนแต่ถ้าเรามาลุยเลยมันก็มาได้ เตรียมตัวเรื่องสภาพอากาศให้ดีพวกตนมาให้ดูแล้วว่ามาได้จริงๆ ถ้าใจเราไป มันจะพาเราไป”