เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 ที่รัฐสภา สส.พรรคก้าวไกล นำโดย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และนายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. แถลงภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มเป็นครั้งแรก หลังพรรคก้าวไกลเสนอให้มีการนับองค์ประชุมระหว่างการพิจารณาญัตติเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาราคากุ้งตกต่ำของฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาล แต่ปรากฏว่ามีผู้แสดงตนเพียง 98 คนเท่านั้น
นายปิยรัฐ กล่าวว่า ตนได้รับฟัง และรอคอยญัตติของผู้เสนอญัตติ ทั้งการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเรื่องกุ้ง และราคาพืชผลการเกษตร ซึ่งที่จริงแล้วควรเข้าตั้งแต่เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) เพราะเขาให้เหตุผลว่า การทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่สำคัญเท่าปากท้องประชาชน แต่ความจริงแล้วทั้งสองเรื่องนี้คือเรื่องเดียวกัน ฉะนั้น ถ้าเขาให้ความสำคัญจริง เราก็จะพร้อมที่จะรับฟังและอภิปรายด้วย
นายปิยรัฐ กล่าวว่า เพื่อนสมาชิกของพรรคก้าวไกลเตรียมเนื้อหาข้อมูล เพื่ออภิปรายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็มีเพื่อนสมาชิกจากพรรคร่วมรัฐบาลชี้แจงว่า เวลาล่วงเลยมาถึงสามทุ่มแล้ว แต่พวกตนก็ยังอยู่กัน พอมาถึงวันนี้ ตนก็รอจนถึงญัตตินี้ แต่ก็ไม่เห็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลผู้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้นักหนา จะเข้ามาในที่ประชุมเพียงพอ จึงคิดว่าแบบนี้เป็นเรื่องที่โฆษณา หรือให้เกิดความเข้าใจว่าปากท้องสำคัญ แต่ความเป็นจริงแล้วเพื่อนสมาชิกไม่ให้ความสำคัญเรื่องนี้
นายปิยรัฐ กล่าวอีกว่า มีเพียงสมาชิกของพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่มีจำนวนเกือบครบ แต่เมื่อมีการนับองค์ประชุม ท่านไม่ต้องมาของร้องให้พรรคก้าวไกลเข้าร่วม แต่ท่านต้องไปขอร้องเพื่อนสมาชิกของท่านว่า ให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชน ถึงแม้จะให้ฝ่ายพรรคร่วมรัฐบาลเป็นฝ่ายนับองค์ประชุม ก็ไม่ครบ เพราะจำนวนฝ่ายรัฐบาลรวมกับพรรคก้าวไกล ก็ไม่ถึง 250 อยู่ดี
ด้านนายวิโรจน์ กล่าวว่า ปัญหาของพี่น้องเกษตรกรมีความสำคัญมาก ทั้งนี้ ตนภูมิใจในพรรคก้าวไกลอย่างมาก พวกเรานั่งกันเต็ม และสมาชิกพรรคก้าวไกลเตรียมที่จะอภิปราย รวมทั้งจะเสนอญัตตินี้ด้วยเช่นกัน จำนวนสมาชิกผู้แทนราษฎรที่นั่งประชุมคือตัวสะท้อนที่ชัดเจนว่า ให้ความสำคัญกับญัตติของพี่น้องเกษตรกรหรือไม่ ไม่ใช่พูดหรือแอคติ้งในสภาฯ ร้องไห้ว่าฉันเห็นความสำคัญแล้วไม่มาประชุม และอย่าอ้างว่า ประชุมที่อื่นบ้าง อยู่ในห้องบ้าง กมธ.สามัญยังไม่มี ตนเชิญนักข่าวไปดูที่ชั้น B2 (ชั้นลานจอดรถ) ได้เลย หลังเที่ยงก็กลับบ้านกันไปแล้ว
พูดดราม่าว่า พี่น้องเกษตรกรสำคัญ แล้วทำไมไม่ตามกันมาประชุม ทำไมกลับบ้านก่อน หรือทั้งหมดเป็นแค่ภาพการรณรงค์เพื่อให้ได้มาเพื่อคะแนนเสียงของประชาชนเท่านั้น อีกหน่อยฝ่ายรัฐบาลจะอภิปรายอะไร สภาฯ ต้องขึ้นหรือไม่ว่า นี่เป็นเพียงการโฆษณาเท่านั้น ตกลงนี่คือแสดง หรือการให้ความสำคัญจริงๆ นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า นับองค์ประชุม 96 พรรคก้าวไกล 150 ต่อให้เราทุกคนเป็นองค์ประชุมก็ไม่ถึง 250 ดังนั้นพวกเราเห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกร และเรายืนยันด้วยจำนวนสมาชิกผู้แทนราษฎรที่ร่วมประชุมในญัตตินี้ ดังนั้น ขอให้ประชาชนเข้าใจกันให้ถูกต้องว่า ใครกันแน่ที่ใส่ใจประชาชนจริงๆ หรือใครกันแน่ที่ใส่ใจเพื่อการโฆษณาเท่านั้น