ช็อกหน้าถอดสี ผู้หมวดไซเบอร์ เจ้าของช่องยูทูบดัง ถูกบุกจับคาบ้าน ผลิตประกอบปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ขายออนไลน์ ฟันรายได้เดือนละ 3 แสน จ่อเอาผิดวินัย-อาญา
วันที่ 4 เม.ย.2567 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผบช.สอท. และ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ค.329/2567 ลงวันที่ 2 เม.ย.67 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าถูกใช้เป็นสถานที่จำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางออนไลน์
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น พบ ร.ต.ท.ปัณณทัต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตร ฝ่ายกิจการต่างประเทศ บก.อก.สอท. กำลังแพ็กอาวุธปืนเพื่อจัดส่งทางไปรษณีย์ให้กับลูกค้า ซึ่งทันทีที่ ร.ต.ท.ปัณณทัต เห็นเจ้าหน้าที่ก็มีสีหน้าตกใจ ก่อนรับเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว และยินยอมให้ตรวจสอบ
ช็อกหน้าถอดสี ผู้หมวดไซเบอร์ เจ้าของช่องยูทูบดัง ถูกบุกจับคาบ้าน ผลิตประกอบปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ขายออนไลน์ ฟันรายได้เดือนละ 3 แสน
จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวอัดลม 3 กระบอก, พานท้ายปืน 100 ชิ้น, ลำกล้องปืนสไนเปอร์ 150 ชิ้น, ที่สูบลมปืนแบบมือ 20 ตัว, ที่สูบลมไฟฟ้า 2 ตัว, กริปมือ 120 ชิ้น, ชุดยิง 47 ตัว, กระสุนหัวร่มกว่า 200 นัด และอุปกรณ์อื่น ๆ จำนวนมาก จึงได้ทำการตรวจยึดไว้
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากข้อสั่งการของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่กำชับการปฏิบัติให้บช.สอท. เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน ประกอบกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ทุกหน่วยระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-10 เม.ย.
กระทั่งพบว่ามีการนำเสนอขายอาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง ผ่านทางแอปพลิเคชันยูทูบ ช่อง AUNDERCOVER ก่อนที่จะให้ผู้ที่สนใจติดต่อผ่านไอดีไลน์ @tdz8888 เพื่อทำการติดต่อซื้อขาย ซึ่งไลน์ดังกล่าวมีสมาชิก 6,238 ผู้ติดตาม 2,552 คน
จึงได้ทำการสั่งซื้อ จนพบข้อมูลว่ามีการส่งอาวุธปืนอัดลมผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน โดยใช้บ้านดังกล่าวเป็นสถานที่ในการจัดส่ง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการเข้าตรวจค้น
จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า มีความชื่นชอบในเรื่องของอาวุธปืน จึงได้ทำการศึกษาและได้ทดลองสั่งอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ อุปกรณ์ส่วนควบ เกลียวลำกล้อง และชุดลั่นไก มาจากทางออนไลน์ ก่อนทำการขายให้กับกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบอาวุธปืน และกลุ่มชาวสวนที่จะนำปืนไปยิงสัตว์
ผู้ต้องหา ให้การต่อว่า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานเป็นหลัก ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 3 ปี มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเฉลี่ยเดือนละ 20-30 กระบอก ขายกระบอกละ 15,000 บาท กำไรหลังจากหักต้นทุนแล้วตกเฉลี่ยกระบอกละ 3,000-4,000บาท ทำให้ต่อเดือนจะมีรายได้กว่า 3 แสนบาท
อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นาวิน เส็งสมวงษ์ ผบก.อก.สอท ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของนายตำรวจนายนี้ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการในส่วนของวินัยและอาญาตามขั้นตอน นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าให้ดำเนินการตามกฎหมาย หากพบมีตำรวจในสังกัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกระทำผิด
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า อาวุธปืนอัดลมที่ตรวจยึดนั้น แม้ไม่ใช่อาวุธปืนจริง แต่หากมีการนำมาใช้งานก็เป็นอันตรายแก่ชีวิต ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าในห้วงตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.-13ก.พ.ที่ผ่านมา มีการส่งพัสดุทั้งหมด 104 ครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสอบสวนและขยายผล พร้อมแจ้งข้อหาจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต และ ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
