วันที่ 8 เมษายน 2567 มีรายงานว่า ร.ต.อ.เปล่ง พานแก้ว รองสว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งตกลงไปในคูน้ำริมถนนสายเอเชีย ขาออก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 22 ต.หันตรา อ. พระนครศรีอยุธยา จ. พระนครศรีอยุธยา ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจไปให้การช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุพบว่าเป็นคูน้ำริมถนนสายเอเชีย พบรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กอ-3797 พระนครศรีอยุธยา อยู่ภายในคูน้ำสภาพ หงายท้องล้อชี้ฟ้า จมน้ำอยู่เกือบมิดคันรถ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่าประตูทุกด้านของรถยังปิดสนิทอยู่ จึงรีบประสานรถยกให้มาดำเนินการระหว่างนั้น
ได้ยินเสียงหญิงสาวทุบเคาะรถ ร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ลงไปทำการใช้อุปกรณ์ยิงกระจกรถให้แตกร้าว จากนั้นทำการทุบกระจกแล้วเปิดประตูนำร่างหญิงสาวซึ่งเป็นคนขับรถ ช่วยเหลือออกมาจากรถซึ่งมีน้ำอยู่เต็มภายในรถ ออกมาได้อย่างปลอดภัย
ทราบชื่อต่อมา น.ส.อุษา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เป็นชาวอำเภอบ้านแพรก จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีบาดแผลถูกกระจกบาดตามร่างกาย จากนั้นเร่งช่วยเหลือเคลื่อนย้ายนำส่ง รพ.พยาบาลราชธานี ตรวจสอบบนถนนพบว่ามีรอยรถพุ่งลงไปเป็นทางจนถึงบริเวณ คู่น้ำส่วนรถยนต์เก๋งพบว่าบริเวณด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจกด้านหน้าแตกร้าว ระบบระบบแอร์แบคภายในรถทำงาน
เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกเวลาประมาณ 01.00 น.ได้รับแจ้งว่ามีประชาชนขับรถยนต์บรรทุกผ่าน ถนนสายเอเชียบริเวณที่เกิดเหตุพบเห็นมีรถยนต์เก๋งเสียหลักพุ่งลงไปในคูน้ำ จึงได้ออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ไม่พบรถยนต์เก๋ง เนื่องจากสภาพมืดมากและมีต้นหญ้าขึ้นปกคลุมสูง จนช่วงเช้ามาได้รับแจ้งอีกครั้งว่า มีประชาชนพบเห็นว่ารถยนต์เก๋งตกอยู่ในคูน้ำจึงมาตรวจสอบ
ครั้งแรกที่ตรวจสอบพบว่าประตูรถยังปิดอยู่ จึงได้ประสานรถยกเพื่อดึงรถขึ้นมา เข้าใจว่าผู้ขับขี่น่าจะเดินทางกลับบ้านพักไป แล้วหรือมีผู้ช่วยเหลือไปแล้ว ระหว่างที่รอรถยกตนเองได้ยินเสียงเคาะกระจก และมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ จึงได้ลงไปในน้ำอีก
ครั้งพร้อมกับใช้อุปกรณ์ยิงกระจกรถ เพื่อทำให้กระจกรถแตกเป็นเม็ดข้าวโพด แล้วทุบรถเข้าไปพบว่าหญิงสาวนอนเอียงตัวขนานกับพื้นหลังคารถซึ่งมีช่องอากาศเหลืออยู่เพียงนิดเดียวจากนั้นเร่งช่วยเหลือนำตัวออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัยนำส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่าเดินทางมาจากรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านพักที่ อ.บ้านแพรก จากนั้นจำเหตุการณ์อะไรไมได้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้บาดเจ็บน่าจะเกิดอาการหลับใน จนรถเสียหลักตกลงไปในคูน้ำริมถนน
สายเอเชียซึ่งมีต้นหญ้าสูงสูงปกคลุม ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ในการที่มีเจ้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบในครั้งแรก โดยรายละเอียดจะต้องทำการสอบสวนผู้บาดเจ็บถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง
