น้ำใจหลั่งไหลช่วย แม่ลูก 3 ขออาหารเหลือมากินประทังชีวิต ยอดบริจาค 8.6 แสนแล้ว ขณะที่ลูกคนโต ป่วยมะเร็งสมอง สัญญาจะรักษาตัวให้หาย และตั้งใจเรียนสูงๆ
จากกรณี แม่ร่ำไห้ วอนคนใจบุญช่วยเหลือลูกชายวัย 13 ปี ตรวจพบมะเร็งในสมอง แต่ไม่มีเงินพาไปรักษา บอกเลี้ยงลูกตามลำพัง 3 คน ต้องขออาหารเหลือมากินประทังชีวิต พร้อมวอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ ให้มีเงินพาลูกชายไปรักษาตัว ให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : แม่ร่ำไห้ วอนช่วยเหลือลูกชายวัย 13 ปี ป่วยมะเร็งสมอง ไม่มีเงินพาไปรักษา)
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 13 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของ นางสายฝน พึ่งสิน อายุ 45 ปี และลูกอีก 3 คน คือ ด.ช.ใจเพชร สังข์ทอง อายุ 13 ปี, ด.ญ.กาญจนา พันทอง อายุ 11 ปี และ ด.ญ.มยุรา พันทอง อายุ 10 ปี ที่ ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบว่ามีผู้ใจบุญทยอยนำสิ่งของเข้ามาช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก ทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง รวมถึงของใช้ที่จำเป็น
ขณะที่เด็กๆ ทั้ง 3 คน ได้นำผลการเรียนมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยพบว่า ด.ช.ใจเพชร นักเรียนชั้น ป.6 มีผลการเรียนเฉลี่ย 3.19 ด.ญ.กาญจนา นักเรียนชั้น ป.5 ผลการเรียนเฉลี่ย 3.63 และ ด.ญ.มยุรา นักเรียนชั้น ป.4 ผลการเรียนเฉลี่ย 4.00
โดย ด.ช.ใจเพชร เล่าถึงอาการป่วยของตัวเอง หลังตรวจพบเชื้อมะเร็งในสมองให้ฟังว่า อาการเริ่มแรกของตนจะมีอาการเท้าชา แขนชา พร้อมกับปวดศีรษะ เดินขาลากไปกับพื้น โดยหลังจากผ่าตัด อาการเหล่านั้นก็ลดลง แต่มีอาการขี้หลงขี้ลืม หลังจากคุยกับคนรอบข้างได้ไม่นาน ก็ลืมว่าพูดอะไรไป ซึ่งตนขอบคุณคนใจบุญทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ ตนสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน และจะรักษาตัวจนกว่าจะหายป่วยด้วย
หลังจากนั้น ทั้งหมด 3 คน ก็พูดขอบคุณผู้ใจบุญทั้งหมดที่โอนเงินมาช่วยเหลือ โดยบอกด้วยว่าจะตั้งใจเรียน และหากเรียนจบสูงๆ อยากจะมีอาชีพเป็นหมอ พยาบาล และทหาร
ซึ่งล่าสุด พบว่ามีผู้ใจบุญโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 015-3-49799-0 ชื่อบัญชี “นางสายฝน พึ่งสิน” ให้ความช่วยเหลือแล้ว 862,467.63 บาท โดยยอดบริจาคยังไหลเข้ามาเรื่อยๆ
ด้าน นางสายฝน กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศ ที่ได้ช่วยเหลือชีวิตของลูกตนให้สามารถมีเงินไปรักษาจากโรคร้ายในครั้งนี้ ตนดีใจและปลื้มใจที่สุดในชีวิต ที่คนมีใจศรัทธาช่วยลูกตน ซึ่งวันนี้มีเงินเกือบล้านเข้าบัญชีของตน ตนไม่หวังว่าจะได้มากหรือน้อย แล้วแต่จะเมตตาช่วยเหลือ และทั้งวันก็มีหน่วยงานและผู้ใจบุญมาช่วย ไม่ต้องไปหาของหมดอายุมากินอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมาคิดเสมอว่าจะช่วยลูกอย่างไรให้มีหนทางไปรักษา วันนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่
ขณะที่ นางนิตยา พูลสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านเขาน้ำเพชร เล่าว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาแสดงความจำนง ขอช่วยเหลือครอบครัวนี้อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ตนรู้สึกดีใจที่คนไทยยังมีน้ำใจที่ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ยอดบริจาควันนี้ตอนบ่าย 2 ได้ 8.6 แสนกว่าบาทแล้ว ซึ่งก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือให้ครอบครัวของ นางสายฝน ให้มีโอกาสพาลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ
ซึ่งตนตั้งใจช่วยเหลือครอบครัวนี้มาตั้งแต่แรก ทั้งเรื่องที่ดินและที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้น ส่วนเรื่องเงินบริจาค จะได้ประสานงานและตั้งคณะกรรมการจัดการเงินให้ถึงจุดหมายตามที่ทุกคนได้ตั้งใจไว้ ด้วยความซื่อตรงและซื่อสัตย์.