คามิ ริตา ชายเนปาล ชนเผ่าเชอร์ปา วัย 54 ปี ได้รับการขนานนามว่า ‘Everest Man’ (เอเวอเรสต์ แมน) สามารถพิชิตยอดเอเวอเรสต์ ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกบนเทือกเขาหิมาลัย สำเร็จเป็นครั้งที่ 29 จนสามารถทำลายสถิติที่ตัวเองเคยทำไว้
จากการเปิดเผยของมิงมา เชอร์ปา เพื่อนนักปีนเขาชาวเนปาล บอกว่า คามิ ริตา (Kami Rita) สามารถพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ซึ่งมีระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 8,849 เมตร เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค. 2567 และสภาพอากาศในวันนั้นท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดี เอื้อต่อการปีนไปสู่ยอดเขา
ตามรายงานข่าวระบุว่า เมื่อปีก่อน 2566 ริตาได้พิชิตยอดเอเวอเรสต์ถึง 2 ครั้งทำให้เขาสร้างสถิติเป็นนักปีนเขาที่พิชิตยอดเอเวอเรสต์ได้มากที่สุด ขณะที่ปาซัง ดาวา เพื่อนนักปีนเขาเผ่าเชอร์ปา ซึ่งแข่งขันกันพิชิตเอเวอเรสต์ สามารถปีนพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ ตามหลังอยู่ที่ 27 ครั้ง
ทั้งนี้ ริตา ได้เดินตามรอยเท้า ตำนานของพ่อ ซึ่งเคยเป็นไกด์นำทางปีนเขาเอเวอเรสต์ในยุคแรก โดยริตาสามารถพิชิตยอดเอเวอเรสต์สำเร็จครั้งแรกในปี 2537 จากนั้น ริตาก็มุ่งมั่นในการปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์เป็นประจำทุกปี จนได้รับฉายา ว่า ‘Everest Man’ (เอเวอเรสต์ แมน) และเขาได้สร้างชื่อเสียงในการเป็นไกด์คนสำคัญสำหรับนักปีนเขาชาวต่างชาติที่ใฝ่ฝันจะปีนไปถึงยอดเขาเอเวอเรสต์
ตามรายงานระบุว่า ในเดือนพฤษภาคมนี้ มีคนหลายร้อยคนที่พยายามจะมาปีนเขาเอเวอเรตส์ ในขณะที่ทางการเนปาลได้อนุญาตให้นักปีนเขาชาวต่างชาติสามารถมาปีนเขาพิชิตยอดเอเวอเรสต์ได้หลายร้อยคน หลังจากปีที่แล้ว มีนักปีนเขาจำนวนมากกว่า 600 คนสามารถปีนขึ้นไปสู่ยอดเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ แต่ขณะเดียวกัน ฤดูปีนเขาเอเวอเรสต์เมื่อปีก่อน ก็เป็นปีที่นักปีนเขาเสียชีวิตมากที่สุดถึง 18 ราย
ติดตามข่าวต่างประเทศได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา Aljazeera