September 20, 2024

พ่อป่วยติดเตียง หมดสติ ปลุกไม่ตื่น ลูกชายไม่พอใจ กู้ชีพฯ มาช้า รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 21 เพจ โหนกระแส ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ลูกชายหัวร้อน ฉุนกู้ชีพฯ มาช้า ด่าทอ รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง สุดท้ายขึ้นไปช่วยพ่อป่วยติดเตียงไม่ทัน เสียชีวิต . สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากชาย อายุ 47 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ ตำแหน่งเวชกรฉุกเฉิน ศูนย์เอราวัณฯ ว่า เมื่อวานนี้ ตน

ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุเอราวัณว่ามีเหตุผู้ป่วยหมดสติ จึงไปตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่คู่สาย บริเวณแฟลตแห่งหนึ่ง ชั้น 8 ถนนพระราม 4 แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงได้มีชายผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกชายของผู้ป่วย ลงมารอรับ

ระหว่างรอขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ได้สอบถามอาการเบื้องต้นของผู้ป่วยกับทางลูกชาย แต่เกิดความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ซักถามประวัติ และด่าทอเจ้าหน้าที่ ก่อนชี้หน้า และชกเข้าที่ใบหน้าของกู้ชีพฯ หลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นมีประชาชนที่อยู่ละแวกใกล้เคียงเข้ามาช่วยห้าม โดยหลังเกิดเหตุกู้ชีพฯ ได้เดินทางเข้าแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีชายคนดังกล่าว

จากการสอบถามกู้ชีพฯ ผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือ โดยญาติแจ้งว่า เป็นผู้ป่วยติดเตียง หมดสติ ปลุกไม่ตื่น แต่ยังหายใจ ซึ่งรถแอดวานซ์ของกู้ชีพในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีเหลือ ทำให้ต้องใช้ตนที่เข้าเวรจุดจอดบึงหนองบอน ซอย

เฉลิมพระเกียรติ ร.9 43 เขตประเวศ ซึ่งค่อนข้างไกล แต่ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จากนั้นเมื่อไปถึง ทางผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชายของคนป่วย ลงมารอรับ และระหว่างเข้าไปในลิฟท์ ตนถามว่าอยู่ชั้นไหน

. ทางผู้ก่อเหตุตอบว่า ชั้น 8 ตนเลยบอกว่าขอรอทีมงานมาถึงก่อน แต่ผู้ก่อเหตุเริ่มทำสีหน้าไม่พอใจ ระหว่างนั้นตนก็สอบถามประวัติของคนไข้ จนทางผู้ก่อเหตุเกิดความไม่พอใจว่าทำไมถึงมาช้า และต้องมารอคนอื่นอีก จากนั้นเมื่อมีพยาบาลมาถึงก็ซักถามอาการปกติ กระทั่งมีการต่อว่า และลงมือชกต่อยตน

โดยหลังเกิดเหตุญาติๆ ของผู้ก่อเหตุอ้างว่า ผู้ก่อเหตุป่วยจิตเวช มักก่อเหตุลักษณะนี้บ่อย และมีประวัติเสพยาเสพติด ซึ่งหลังเกิดเหตุทางญาติของผู้ก่อเหตุพยายามจะให้ขึ้นไปดูผู้ป่วยชั้นบนก่อน แต่เนื่องจากผู้

ก่อเหตุยังคงพูดจาโวยวาย ไม่มีสติ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถขึ้นไปช่วยเหลือได้ เพราะกลัวจะเกิดอันตราย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ขึ้นไปดูผู้ป่วย แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตแล้ว

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้พร้อมกับให้ทางผู้เสียหายเดินทางไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ โดยจะนัดมาสอบปากคำวันเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *