พ.ต.ท.กิตติพันธ์ ศิริพร รองผกก.กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 รับแจ้งจาก น.ส.ดาว นามสมมติว่า นายธงชัย ซึ่งเป็นสามีชาวชุมพร อยู่กินด้วยกันเมื่อไม่นาน มีพฤติกรรมน่าสงสัย มักปกปิดใบหน้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน อีกทั้งเมื่อออกจากบ้านจะระแวงคนรอบด้านทุกคน โดยเฉพาะเมื่อกลับบ้านที่ชุมพร จะห้ามไม่ให้ชวนไปไหน โดยขณะนี้กำลังเดินทางโดยรถทัวร์ปรับอากาศ สายกรุงเทพ-โคกกลอย-พังงา เป้าหมายจะลงไปทำธุระเรื่องกู้ยืมเงินที่ จ.ระนอง จึงต้องการให้ช่วยตรวจสอบประวัติสามี ว่าเป็นคนร้ายที่เคยก่อเหตุหรือไม่ จึงสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำการตรวจสอบประวัติ
พบนายธงชัย อายุ 38 ปี ชาวอ.เมือง จ.ชุมพร มีหมายจับหลายคดี ทั้งสถานีตำรวจในจังหวัดชุมพรและจังหวัดใกล้เคียง ในข้อหาลักทรัพย์และคดียักยอกทรัพย์ 20 คดี มีหมายจับ 14 หมายจับ โดยเฉพาะพื้นที่ชุมพร มี 9 หมายจับ จึงสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.8 ลงพื้นที่วางแผนร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว (ชุมพร )เพื่อทำการจับกุม บนถนนสายเพชรเกษม ขาล่อง บริเวณด่านตรวจปฐมพร
จนกระทั่งเวลา 01.00 น.วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา รถทัวร์ปรับอากาศสีฟ้า-ขาว วิ่งระหว่างกรุงเทพ-โคกกลอย-พังงา ขับเข้ามาในด่าน เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้จอด ก่อนเรียกเข้าริมทางเพื่อขอตรวจค้น โดยเจ้าหน้าที่แจ้งให้ได้ทราบ ท่ามกลางความตื่นตกใจของผู้โดยสารที่โดยสารมากับรถทัวร์คันดังกล่าว ก่อนขอขึ้นไปตรวจค้น แต่ไม่พบนายธงชัย
จากการสอบถามพนักงานขับรถทัวร์ทราบว่า เมื่อประมาณ 4 ทุ่มเศษ มีผู้โดยสารเป็นหญิงกับชาย แต่ไม่ทราบว่าเป็นแฟนกันหรือไม่ ซึ่งทั้งสองได้ซื้อตั๋วโดยสารเพื่อลงปลายทางที่ จ.ระนอง แต่ขอลงระหว่างทางที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่คาดว่า นายธงชัยคงไหวตัวทัน จึงนำกำลังบางส่วน เร่งเดินทางไปตรวจสอบ โดยเชื่อว่าทั้งสองคงจะต้องหาที่พัก เพื่อรอเวลาเดินทางต่อไปยัง จ.ระนอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 03.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจชุดสืบสวน ภ.8 และตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร สืบทราบว่า นายธงชัย พร้อม น.ส.ดาว หลังจากที่ลงจากรถทัวร์แล้วได้เข้าไปเปิดห้องพัก หมายเลข 7 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเพชรเกษม ขาล่อง ใกล้กับจุดที่ลงจากรถทัวร์ฯ ไม่มากนัก จึงเดินทางไปยังเป้าหมาย ก่อนเรียกคนในห้องเปิดประตู พบ น.ส.ดาว เป็นผู้เปิดประตู โดยมีนายธงชัยนั่งอยู่บนเตียง ด้วยสีหน้าซีดขาว หลังทราบเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เจ้าหน้าที่ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ.94/2566 ลงวันที่ 11 เม.ย.66 ข้อหาลักทรัพย์ ให้นายธงชัยอ่านดู โดยนายธงชัยรับว่า เป็นบุคคลดังกล่าวจริง พร้อมให้การในเบื้องต้นว่า การที่ตนเองต้องลงจากรถระหว่างทาง เนื่องจากแอร์ไม่เย็น จึงขอลงดีกว่าแล้วค่อยเดินทางต่อ ไม่ทราบว่าตำรวจรอดักจับอยู่ที่ชุมพร ในส่วนการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆ ไปไหนมาไหนก็ต้องระวังตัว หากพบว่ามีคนแปลกหน้า จะขอรถคนรู้จักอ้างไปทำธุระ แล้วก็เอาไปจอดทิ้ง เพื่อหนีจากจุดนั้นให้ไกลที่สุด หรือเมื่อครั้งที่ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ สภ.ปากน้ำชุมพรแห่งนี้ ได้ออกหมายจับนั้น ตนไม่ได้ตั้งใจลักทรัพย์ เพียงแต่ว่าได้เช่าเหมารถแท็กซี่มาชุมพร ระหว่างที่นั่งกินข้าวกันอยู่ที่ร้านอาหารริมชายหาด ตนได้ขอรถออกไปทำธุระ โดยให้คนขับนั่งกินข้าวอยู่ก่อน และเมื่อขับออกไปก็นำไปจอดทิ้งรอยต่อชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์แค่นั้น
นายธงชัย ยืนยันว่า คดีที่ตนเองก่อนั้นไม่ถึง 10 คดี และบางคดีตนก็ชนะไปก็มี และทุกวันที่หลบหนีนั้น ก็พยายามศึกษากฎหมาย โดยเฉพาะกรณีลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ มีอัตราโทษเพียงไหน และจะสู้ในทิศทางไหนที่จะชนะหรือลดหย่อนผ่อนโทษให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้บันทึกจับกุมตัวนายธงชัย ก่อนนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป