อธิบดีกรมสอบสวนดคีพิเศษ เห็นควรสั่งฟ้อง 10 ผู้ต้องหา คดีอุ้มบุญผิดกฎหมาย แจ้งข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ-ตั้งครรภ์เพื่อการค้า
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2666 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 236/2565 กรณี
ขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) ให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างประเทศ ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในจ.หนองคาย กรณีเด็กชายแทนไทย (นามสมมติ) นั้น
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเสร็จสิ้น และอธิบดีดีเอสไอ ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้อง น.ส.นริศรา (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหากับพวก รวม 10 ราย ในความผิดฐาน “มีส่วนร่วม
ในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ” ตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ 2556
และความผิดฐาน “ร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า” ตามมาตรา 24 พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ 2558
โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้อง นายสุเนตร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหากลุ่มนายหน้าชาวไทยและนายหน้าชาวต่างชาติ อยู่ระหว่างหลบหนี ในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นคนกลางหรือนายหน้าชี้ช่องให้มีการรับตั้งครรภ์แทน”
และกลุ่มแพทย์เจ้าของคลินิกย่านถนนเพลินจิต ซึ่งเป็นชาวจีน อยู่ระหว่างหลบหนี ในความผิดฐาน “ผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ให้แก่สามี
และภริยา โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 27 และมาตรา 23 แห่งพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้นำส่งสำนวนคดีพิเศษให้กับพนักงานอัยการคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2566 พร้อมด้วยตัวผู้
ต้องหา ศาลอาญาได้อนุมัติให้ฝากขัง จำนวน 1 ราย ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 ราย ที่หลบหนี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับไว้แล้ว และจะดำเนินการติดตามจับกุมต่อไป