September 19, 2024

บุกรวบ 6 หมอเก๊ จบ ม.6-ปวช. สวมรอยเป็นหมอ เสริมความงาม ฉีดหน้าลูกค้า

 

 

 

วันที่ 12 ก.ค. 67 ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วย ดร.ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, นพ.ภุชงค์ ไชยชิน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และ นพ.รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ร่วมกันแถลงผลกวาดล้างหมอเถื่อนย่านปริมณฑล รวบ 6 หมอเก๊รักษาโรค-เสริมความงามให้ประชาชน ตรวจยึดของกลาง จำนวน 29 รายการ

พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปคบ. รับเรื่องร้องเรียนจาก สสจ.ปทุมธานี สสจ.นนทบุรี และจากประชาชนให้ตรวจสอบบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ลักลอบให้บริการตรวจรักษาให้ประชาชนทั่วไป ทั้งในรูปแบบรักษาโรคทั่วไปและฉีดหน้าเสริมความงาม ซึ่งบางรายการโฆษณาเชิญชวนประชาชนให้มารับการรักษาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนพบว่ามีบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์หลายรายลักลอบใช้สถานที่ต่าง ๆ เปิดรับการรักษาให้แก่ประชาชนโดยทั่วไปจริง จึงระดมกำลังกวาดล้างหมอเถื่อนและสถานพยาบาลเถื่อนรวม 5 จุด

โดยจุดแรกคือสถานพยาบาลแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ขณะเข้าตรวจสอบพบ น.ส.สุภัคจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี แสดงตนเป็นแพทย์ผู้รักษา เมื่อตรวจสอบพบว่าแพทย์ผู้รักษาไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยผู้ต้องหารับว่าตนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่6

นอกจากนี้ตรวจค้นพบคลินิกแห่งหนึ่ง บริเวณถนนรังสิต-นครนายก จ.ปทุมธานี และสถานพยาบาลแห่งหนึ่งย่านตำบลบ้านใหม่ จ.ปทุมธานี และสถานพยาบาลอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี และสถานที่สุดท้ายที่ตรวจค้นพบร้านนวดหน้า สปาแห่งหนึ่ง ย่านตำบลลำผักกูด จ.ปทุมธานี รวมตรวจค้น 5 จุด ตรวจยึดของกลางจำนวน 29 รายการ

จากการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของหมอเก๊ทั้ง 6 ราย จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจากการศึกษานอกโรงเรียนจำนวน 1 คน, จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 คน, จบการศึกษาระดับ ปวช. จำนวน 1 คน, จบปริญญาตรีพยาบาลศาสตร์ 1 คน, จบปริญญาตรีด้านเทคนิคการแพทย์จำนวน 1 คน และจบปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์และไปเรียนต่อผู้ช่วยพยาบาลจำนวน 1 คน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 6 รายคือ น.ส.สุภัคจิรา, น.ส.สนธยา, นายเอกภพ, น.ส.รมย์ชลี, น.ส.อรพิน, น.ส.จินตนา

ข้อหาแตกต่างกันไปเช่น ร่วมกันประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ความผิด พ.ร.บ. จะทานพยาบาล พ.ศ. 2541 ฐาน ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่รับอนุญาต ระหว่างโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้าน ดร.ทพ.อาคม กล่าวว่า ฝากเตือนถึงสถานพยาบาลและสถานเสริมความงามต่าง ๆ หากนำชื่อแพทย์มาแขวนป้ายโดยไม่จัดให้มีแพทย์ผู้ดำเนินการอยู่จริง ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล ส่วนแพทย์ที่ยินยอมให้สถานพยาบาลนำชื่อมาแขวนป้าย จะถูกดำเนินคดีด้านจริยธรรมทางการแพทย์ จากแพทยสภา ซึ่งอาจถึงขั้นระงับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมได้ จึงขอเน้นย้ำให้แพทย์ผู้ดำเนินการทุกรายปฏิบัติตามกฏหมาย

ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา กล่าวทิ้งทายว่า ฝากเตือนประชาชนว่าก่อนเข้ารับการรักษาในสถานเสริมความงามควรตรวจสอบการได้รับอนุญาตก่อนจากนั้นให้ตรวจสอบแพทย์ที่ทำการรักษาว่าเป็นแพทย์จริงหรือไม่อย่าเห็นแก่โปรโมชั่นราคาถูกเกินจริง เพราะจะส่งผลอันตรายแก่ร่างกาย ส่วนบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่ง บก.ปคบ.ยังคงเดินหน้าติดตามตรวจสอบจับกุมมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *