เอชพี (HP) บริษัทผลิต เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือพีซี และแล็ปท็อปชื่อดังระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า จัดเตรียมแผนย้ายการผลิตเครื่องพีซีมากกว่าครึ่งหนึ่ง ออกจากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ และเตรียมสร้างศูนย์กลางการออกแบบ ที่คอยสนับสนุนการผลิตของเอสพีในประเทศสิงคโปร์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการลดความเสี่ยง ปัญหาความขัดแย้งในภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศจีนและไต้หวัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่าเป็นท่าทีเชิงรุกครั้งใหญ่ของนักธุรกิจในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์สัญชาติอเมริกัน ที่ต้องการจะกระจายความเสี่ยงด้านเครือข่ายการผลิต ออกจากจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งในเอเชีย
เอชพี ได้ชี้แจงเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวดังกล่าวกับบริษัทซัพพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ให้กับเอชพีโดยมีเป้าหมายว่าการย้ายฐานการผลิตดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายใน 2-3 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าหมายการผลิตโน๊ตบุ๊ก ให้มีสัดส่วนสูงถึง 70% ภายนอกประเทศจีน สำหรับจุดหมายปลายทางของการย้ายฐานการผลิตในครั้งนี้ โดยหลักแล้วจะอยู่ที่ประเทศไทย ซึ่งเอชพีเคยประกาศเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าจะย้ายฐานการผลิตออกมาตั้งโรงงานในประเทศไทย และเม็กซิโก
ข้อมูลล่าสุด พบว่า มีบริษัทซัพพลายเออร์ของเอชพีอย่างน้อยจำนวน 5 แห่ง ทำการขยายโรงงานผลิต หรือศูนย์กลางคลังสินค้าในประเทศไทย และมีสองโรงงานที่เพิ่มกำลังการผลิตนับตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือว่าเอชพีกำลังเดิมพันครั้งใหญ่ในการก่อสร้างศูนย์กลางการผลิตในประเทศไทย เอชพีมีโรงงานผลิตในประเทศอื่นที่อยู่ในอาเซียนเพื่อรองรับ ลูกค้า แต่เนื่องจากมีประสิทธิภาพไม่มากพอ ดังนั้นเอชพีจึงตัดสินใจสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทย
ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทซัพพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วน และอะไหล่ให้เอชพี เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเอชพี เรามีความกังวลว่าจะไม่มีคำสั่งซื้อที่มากพอ ที่จะใช้ฐานการผลิตในประเทศไทย อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เราได้รับการร้องขอจากบริษัทเอชพี ให้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศ ขณะนี้กิจการของเราภายในประเทศไทย ต้องเดินเครื่องผลิตอย่างคึกคัก
เอชพีเปิดเผยต่อไปว่า บริษัทได้มีการจ้างพนักงานระดับบริหาร ได้แก่ ผู้จัดการและวิศวกร ในประเทศสิงคโปร์เพื่อ สร้างทีมที่เป็นหน่วยงานสนับสนุนเบื้องหลังให้กับศูนย์การออกแบบระดับชั้นนำของเอชพีที่อยู่ในไต้หวัน ข้อมูลล่าสุด พบว่าเอชพีมีการจ้างวิศวกร และ พนักงานมืออาชีพอื่นๆรวมกันมากกว่า 200 คน เช่น วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรเครื่องกล และผู้เชี่ยวชาญห่วงโซ่การผลิต ซึ่งจะ ช่วยทำให้สิงคโปร์กลายเป็น ศูนย์กลางการออกแบบอีกแห่งของเอชพี
ทั้งนี้ ไอดีซี (IDC) เปิดเผยว่า เอชพีจัดส่งพีซี ทั่วโลกเป็นจำนวน 52 ล้านเครื่องในปี 2023 ผ่านมา ซึ่งเป็นรองเพียงเลอโนโว แบรนด์พีซีและแล็ปท็อปสัญชาติจีน