เกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว? แม่กรี๊ดเสียขวัญ ทิ้งลูก 3 ขวบอยู่บ้านคนเดียว กลับมาอีกทีผงะ นอนนิ่งอาบเลือด แต่ตื่นพูดคำแรกฟังแล้วโล่งใจ
การดูแลลูกเป็นงานยากที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ต้องเผชิญ ต้องใช้ความอดทน ความเห็นอกเห็นใจ และการอุทิศตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง เด็กแต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความต้องการและความปรารถนาที่แตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่าไม่มีแนวทางการดูแลเด็กที่เฉพาะเจาะจง ผู้ปกครองต้องรับฟัง สังเกต และเรียนรู้จากบุตรหลาน เพื่อให้เข้าใจและตอบสนองความต้องการของตนได้ดีที่สุด
มีเรื่องราวของคุณแม่ในประเทศจีน เธอนับว่าเป็น “แม่บ้านเต็มเวลา” เนื่องจากสามีทำงานยุ่งทั้งวัน และพวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของทั้งสองฝ่าย ดังนั้น หลังจากให้กำเนิดลูกสาวแล้ว เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงานเพื่ออยู่บ้าน และมุ่งความสนใจไปที่การดูแลลูก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
ปีนี้ลูกสาวของเธออายุเพียง 3 ขวบ ภายใต้การดูแลอย่างระมัดระวังจึงไม่ค่อยป่วย และมีพัฒนาการในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเธอได้รับโทรศัพท์ให้ลงไปที่ล็อบบี้ของอาคารที่พักอาศัย เพื่อรับสินค้าจากบริการจัดส่ง ในเวลานี้ เนื่องจากลูกสาวของเธอกำลังหลับอยู่ แม้จะลังเลเพราะไม่เคยทิ้งลูกไว้ที่บ้านคนเดียว แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจรีบลงไปที่ล็อบบี้เพื่อรับสินค้า
เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่นาน จึงคิดว่าคงไม่มีปัญหาใดๆ อย่างไรก็ดี เมื่อกลับขึ้นมาที่บ้านอีกครั้ง ภาพที่เห็นแทบจะทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้น เมื่อเสื้อผ้าของลูกสาวถูกปกคลุมไปด้วยสีแดง และในช่วงไม่กี่นาทีแรกเมื่อเธอเห็นภาพนั้นต่อหน้าต่อตา เธอก็คิดว่ามันเป็น “เลือด” อย่างแน่นอนปฏิกิริยาแรกคือการรีบอุ้มลูกขึ้นมา
ในขณะนั้นเองลูกสาวก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น กระพริบตาอย่างไร้เดียงสาแล้วพูดว่า “แม่ไปไหนมา หนูเบื่อมาก จึงเล่นลิปสติกของแม่ แต่ไม่คิดว่าจะสกปรกไปหมดนะแม่ อย่าโกรธหนูนะ”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้ ผู้เป็นแม่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปรากฎว่าสิ่งที่เธอคิดว่าเป็น “เลือด” บนตัวลูกสาวนั้นแท้จริงเป็นสีแดงจาก “ลิปสติก” ที่นำมาทาเล่น จากเหตุการณ์นี้แม้จะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แต่ก็ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวมาก ต่อมาจึงไม่กล้าทิ้งลูกสาวไว้ที่บ้านตามลำพังอีกเลย
