ชายชราเสียชีวิต ทำพินัยกรรมยกเงินให้สาวใช้ 9.5 ล้าน ขณะที่ลูกสาวแท้ ๆ กลับได้รับเพียง 4 บาท เมื่อรู้เหตุผลทุกคนต่างรู้สึกเศร้าใจเว็บไซต์ SOHA รายงานเรื่องราวของ นายโหว ชายชราชาวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ซึ่งหลังจากเขาเสียชีวิต ได้ทิ้งพินัยกรรมไว้ ระบุว่า “หลังจากที่ฉันจากไป ทรัพย์สินที่จะมอบให้กับลูกสาวของฉันคือ 1 หยวน (ประมาณ 4 บาท) ส่วนบ้านและเงินออมทั้งหมดซึ่งมีมูลค่ารวม 2 ล้านหยวน (ประมาณ 9.5 ล้านบาท) จะมอบให้กับคุณหลิน”
สิ่งที่น่าตกใจคือ “คุณหลิน” ที่กล่าวถึงไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนสนิทของนายโหว แต่เป็นเพียงสาวใช้ที่ลูกสาวจ้างมาเพื่อดูแลพ่อที่แก่เฒ่า เป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
พินัยกรรมที่ถูกเปิดเผยทำให้ญาติ ๆ ทั้งหมดต่างรู้สึกสงสัยอย่างมาก แต่นี่คือพินัยกรรมที่นายโหวจัดทำขึ้นเอง และได้รับการรับรองตามกฎหมาย
นายโหวมีลูกสาวเพียงคนเดียว เมื่อเขาหย่าขาดกับภรรยา เขายอมสละทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อขอสิทธิดูแลลูกสาว หลังจากกลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว นายโหวพยายามอย่างเต็มที่เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกสาวเวลาผ่านไป ลูกสาวของนายโหวแต่งงานและมีครอบครัวของตัวเอง จากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาวก็เริ่มห่างเหินมากขึ้น จากการโทรศัพท์หาทุกสัปดาห์ เปลี่ยนเป็นเดือนละครั้ง แล้วก็เป็น 3 เดือนครั้ง การไปเยี่ยมเยียนก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ จนบางครั้งต้องรอนานถึงครึ่งปีถึงจะได้พบกัน
ในความเป็นจริง จากบ้านของลูกสาวถึงบ้านของนายโหว ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงในการขับรถ แต่สำหรับนายโหวดูเหมือนว่านั่นเป็นระยะทางที่ห่างไกลจนเขาไม่สามารถเข้าถึงได้
ภายหลังเมื่อสุขภาพของนายโหวเริ่มทรุดโทรมและป่วยหนัก เขายังคงอยู่เพียงลำพังในบ้าน ขณะนั้นลูกสาวมาเยี่ยมเพียง 2 ครั้ง ใน 3 เดือน หลังจากการทักทายสั้น ๆ ลูกสาวก็รีบจากไปและไม่กลับมาอีก ในระหว่างนั้นมีเพียงคุณหลอน สาวใช้ที่ลูกสาวจ้างมา คอยดูแลนายโหวเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นว่าชีวิตของเขากำลังใกล้จบ แต่คงรอให้ลูกสาวมาพบไม่ไหว นายโหวจึงรู้สึกผิดหวังมาก และได้จัดทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินเกือบทั้งหมดให้กับคุณหลิน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2561 และกลายมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ซึ่งเมื่อข่าวเกี่ยวกับพินัยกรรมที่แปลกประหลาดแพร่กระจายออกไป หลายคนก็วิจารณ์ลูกสาวของนายโหว
บางคนก็เห็นว่าสาวใช้นั้นสมควรได้รับสิ่งเหล่านั้น มากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต นายโหวเพียงแค่ต้องการมีคนคอยอยู่เคียงข้าง พูดคุยและชดเชยช่วงเวลาที่รอคอยลูกสาวในความโดดเดี่ยว