ดิว ธีรภัทร อินฟลูดัง หอบเงิน 2 แสน ใช้หนี้ค่าจัดงานแต่ง น้องปอ-พู่กัน ขอให้ทั้งคู่กลับมารักกัน ด้าน พ่อแม่ฝ่ายหญิง ขอบคุณช่วยปลดทุกข์ที่อยู่บนบ่า 5 เดือน
จากกรณี ดิว ธีรภัทร เสื้อผ้าพ่อค้าพาฟิน อินฟลูเอนเซอร์ดัง ประกาศช่วยจ่ายหนี้ค่าสินสอดให้ น้องปอ และ น้องพู่กัน คู่รักที่ต้องเลิกรากัน จากปัญหาทุกข์หนักที่แม่ของฝ่ายหญิงต้องจ่ายค่าสินสอดแทนพ่อฝ่ายชายจนเป็นหนี้สินรุมเร้าแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 14 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา เดินทางไปยังบ้านของฝ่ายหญิง ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ต.บ่อถ้ำ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร โดยพบกับ นายขจร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี, นางผุสดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี พ่อและแม่ของน้องปอ
ดิว ธีรภัทร อินฟลูดัง หอบเงิน 2 แสน ใช้หนี้ค่าจัดงานแต่ง น้องปอ-พู่กัน ขอให้ทั้งคู่กลับมารักกัน ด้าน พ่อแม่ฝ่ายหญิง ขอบคุณช่วยปลดทุกข์ที่อยู่บนบ่า 5 เดือน
ซึ่งได้พาเดินดูบ้านพักอาศัยที่ใช้จัดงานแต่งของลูกสาวและลูกเขย โดย น้องปอและ น้องพู่กัน ได้อยู่อาศัยมาตั้งแต่คบกันตอนเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 ซึ่งปัจจุบันอยู่ปี 3 แล้ว โดยสภาพบ้านมีลักษณะเก่าทรุดโทรมหลังคามุงแฝก ทำให้มีความน่าสงสารอย่างยิ่งกับสภาพครอบครัวที่ไม่ค่อยดีนัก
นางผุสดี แม่ของฝ่ายหญิง กล่าวว่า ปัจจุบันมีหนี้สินที่เกิดจากงานแต่งงานจำนวน 185,000 บาท แยกเป็น 1.จำนำทองคำ 3 บาท 75,000 บาท 2.เบิกเงินนายจ้างล่วงหน้ามา 50,000 บาท 3.ยืมเงินพี่สาวสามี 30,000 บาท 4.ยืมเงินยายเจ้าของร้านขายของหน้าปากซอย 30,000 บาท
นางผุสดี กล่าวต่อว่า หากได้เงินช่วยเหลือจากคุณดิว ธีรภัทร 2 แสนบาท จะนำเงินทั้งหมดไปใช้หนี้ที่เกิดจากงานแต่งงานทันที เพราะทุกข์ใจมายาวนานกว่า 5 เดือน และเกรงใจผู้ที่มีความเมตตาช่วยเหลือ
ต่อมาเวลา 18.00 น.ของวันที่ 13 ก.ย. ดิว ธีรภัทร ได้เดินทางมาถึงบ้านฝ่ายหญิง โดยพ่อและแม่ของน้องปอ ต่างรอต้อนรับอย่างดีใจพร้อมชาวบ้านจำนวนมาก หลังจากดิวได้เดินทางมาถึง ก็ได้มีการสวมกอดแม่ของฝ่ายหญิง พร้อมพูดให้กำลังใจแม่โดยพูดถึงการเลี้ยงลูกที่ดีมากและสัจจะวาจาที่ให้ไว้
จากนั้นได้มอบเงินจำนวน 200,000 บาท กับฝ่ายพ่อและแม่เพื่อปลดทุกข์กับเรื่องดังกล่าว โดยผู้เป็นแม่ได้อวยพร ดิว ธีรภัทร ให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองและขอมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานค้าขาย พร้อมกับร้องไห้ดีใจกับสิ่งที่ดิวมาช่วยเหลือ
หลังจากนี้จะกลับไปรับน้องปอและพู่กันที่มหาวิทยาลัยในตัวเมืองนครสวรรค์เพื่อไปไลฟ์สดในเพจเพื่อหารายได้ช่วยเหลือ หลังจากนั้นก็ได้ร่วมกันถ่ายรูปกับแฟนคลับที่มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น
ดิว ได้พูดฝากถึงพ่อและแม่ว่า จากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอให้เด็กทั้งคู่ได้รักกันและกลับมาอยู่ร่วมกัน เชื่อว่าหลังจากนี้จะมีความโชคดีเข้ามาอย่างแน่นอน ตนในฐานะผู้ช่วยเหลือก็อยากทำให้เป็นกุศลและบุญใหญ่
จากนั้นก็เดินทางกลับทันที โดยพ่อและแม่ของฝ่ายหญิงได้นำเงินไปใช้หนี้ให้กับพี่สาวของสามี และไปเคาะประตูร้านขายของชำหน้าปากซอยเพื่อนำเงินใช้หนี้ และในวันรุ่งขึ้นจะเดินทางนำเงินไปไทยถอนทองคำ 3 บาทที่ได้นำไปจำนำไว้ในร้านทองใน ต.สลกบาตร
ดิว ธีรภัทร กล่าวว่า ตนเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่นที่เดือดร้อนประจำ ล่าสุดก็เพิ่งจะโอนเงินช่วยเหลือชาว จ.เชียงราย ที่ประสบภัยน้ำท่วม ทุกวันนี้ตนได้ทุกอย่างมาจากแฟนคลับ ตนอยากใช้ชื่อเสียงที่มีอยู่เผยแพร่เรื่องราวดี ๆ ในสังคม ตนไม่เสียดายเงินแต่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่ได้ช่วยใครเลยตนจะเสียใจมาก
ดิว กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องราวของน้องปอและน้องพู่กัน ตนเห็นแล้วมีความสงสารและแม่ฝ่ายหญิงเลี้ยงลูกได้ดีมาก และแม่บอกว่าการมีสัจจะวาจาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นแม่ที่ดีอย่างยิ่งที่สามารถดูแลได้ทั้งครอบครัวตนเองและฝ่ายชาย
ดิว กล่าวอีกว่า พร้อมทั้งอยากฝากถึงน้องทั้งสองคนว่า ให้นึกถึงวันวานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทุกข์ยากเพียงใดก็ขอให้จับมือกันไว้ ผ่านวิกฤตชีวิตไปให้ได้ ตนมาปลดหนี้ให้กับทั้งคู่ก็อยากมาเป็นกาวใจให้ทั้งคู่กลับมารักกัน เป็นคู่ครองกันตลอดไป สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกันขอให้กำลังใจ
ด้าน นางผุสดี กล่าว่า ตนดีใจอย่างยิ่งที่มีผู้ใจบุญมาช่วยปลดทุกข์ที่อยู่บนบ่ามานานกว่า 5 เดือนแล้ว ซึ่งยอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ถูกทวงเงินจากผู้ที่ไปหยิบยืมมาสร้างความลำบากใจอย่างยิ่ง ไม่รู้จะหาหนทางใด ต้องขอบคุณสื่อทุกช่องที่ทำให้ตนหมดทุกข์กินได้นอนหลับวันนี้ ขอบคุณจากใจจริง ๆ
ขณะที่ นายขจร กล่าวว่า แม้จะได้เงิน 200,000 บาทมาปลดหนี้ แต่ยังไม่ขอยกเงินที่พ่อของฝ่ายชายติดค้างไว้เพราะอยากให้พิสูจน์ความรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้พูดไว้ว่าจะทำได้หรือไม่ ซึ่งก็จะต้องใช้เวลาเป็นตัวชี้วัด
นายขจร กล่าต่อว่า ฝากถึงน้องปอและน้องพู่กัน ขอให้ทำความเข้าใจกันและกลับมาใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะหากวันใดวันหนึ่งพ่อกับแม่ไม่อยู่แล้วก็จะได้หมดห่วง สุดท้ายต้องขอบคุณ ดิว ธีรภัทร ที่ให้แสงสว่างกับครอบครัวของตนครั้งนี้