November 22, 2024

รวบแล้ว สาวประเภทสอง ปล้นทองในโลตัส หวังเอาเงินไปซื้อปืน ฆ่าลูกน้อง-แฟนเก่า

รวบแล้ว สาวประเภทสอง ใช้มีดบุกเดี่ยว ปล้นทองในโลตัส ได้ไปกว่า 8 แสน หวังเอาเงินไปซื้อปืน สางแค้นลูกน้อง-แฟนเก่า โกงเงินไปหลายแสน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 4 ม.ค.2567 พ.ต.ท.พิชัย ขุนทองแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.สะเดา รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง “ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ” สาขาโลตัสสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา

 

ตรวจสอบจุดเกิดร่วมกับตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ทราบว่าคนร้ายได้สร้อยคอทองคำไปยกแผง 8 เส้น หนักเส้นละ 3 บาท รวมน้ำหนักทอง 24 บาท มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ส่วนพนักงานที่อยู่ในร้าน ซึ่งเป็นผู้หญิง 3 คน ปลอดภัยและอยู่ในอาการตกใจ

สาวประเภทสอง ก่อเหตุปล้นทองในโลตัส

ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้างพบว่าคนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียวเป็นสาวประเภทสองสวมเพียงหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินถือมีดเข้ามาในเคาน์เตอร์ร้านทอง พูดข่มขู่พนักงานขู่ให้นั่งลงและกระโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ ใช้มือหยิบเอาสร้อยคอทองคำที่แขวนอยู่ในตู้ทองชั้นบนไป

ก่อนวิ่งออกไปจากร้านท่ามกลางลูกค้าที่เดินซื้อของอยู่ภายในห้าง โดยใช้เวลาลงมือเร็วมากราว 1 นาที จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่น GPX drone ป้ายทะเบียนสีแดง หลบหนีไป

สอบถามพนักงานร้านทองบอกว่าตอนเกิดเหตุคนร้ายเดินเข้ามาในร้านและกระโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์และบอกให้พนักงานทุกคนนั่งและใช้อาวุธมีดข่มขู่ จึงรีบกดสัญญาณเตือนในร้านแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ

วินาทีหลบหนี

ด้านเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุตอนนี้เจ้าหน้าที่พอรู้ตัวผู้ต้องสงสัยแล้วเป็นสาวประเภทสองกำลังอยู่ระหว่างติดตามจับกุม

ต่อมาเวลา 20.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สะเดา แกะรอยคนร้ายตามเส้นทางที่ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี พบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกขับไปจอดทิ้งไว้ หลังบริษัทเบทาโกร ห่างจากห้างโลตัสสะเดาราว 2 กิโลเมตร

สอบถามพยานแวดล้อม บอกว่า เห็นเพียงรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ แต่ไม่เห็นว่าใครเป็นคนขับมา และเบาะแสล่าสุดทราบว่าหลังจากที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ ได้เรียกรถแกร๊บมารับออกไปจากจุดเกิดเหตุไปส่งที่ด่านพรมแดนสะเดา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีข้ามแดนไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ฝั่งมาเลเซียเพื่อตรวจสอบว่ามีบุคคลลักษณะตามภาพในกล้องวงจรปิดผ่านข้ามแดนไปหรือไม่ ถ้ามีการหลบหนีข้ามไปยังฝั่งมาเลเซียเชื่อว่าการก่อเหตุชิงทองครั้งนี้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี

คนร้าย จอดรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุทิ้งไว้

ต่อมาเวลา 00.30 น.วันที่ 5 ม.ค.2567 พ.ต.อ.สุรจิต เพชรจอม ผกก.สภ.สะเดา พ.ต.ท.ชนาวิน รัตนาวินรอง ผกก.ป. ร่วมกับ พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสินผกก.สส.ภ.จ.สงขลา พ.ต.ท.เอกภพ มุสิกปักษ์รองผกก.ฯ ร.ต.อ.เสน่ห์ โพธิ์ศรี รองสว.สส.ฯ นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนสภ.สะเดา และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลาชุดปฏิบัติการ 3

สามารถแกะรอยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้วหลังจากที่มากบดานอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ได้หลบหนีเข้ามาเลเซียตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วงแรก

คนร้ายรายนี้ชื่อ ปรีชา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี หรือเทียน เป็นชาว จ.พังงา ก่อนหน้านี้เข้าไปทำงานอยู่ในประเทศมาเลเซียและเพิ่งเดินทางกลับมาไม่นาน

รายงานว่าตำรวจตามแกะรอยไปจับกุมได้ขณะเปิดห้องพักอยู่ที่แมนชั่นแห่งหนึ่งย่านถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 กลางเมืองหาดใหญ่ พร้อมยึดสร้อยคอทองคำทั้ง 8 เส้นคืนมาได้ทั้งหมด ซึ่งเก็บไว้ใต้หมอนพร้อมมีดที่ใช้ก่อเหตุ

ผู้ต้องหาปล้นทอง

สอบสวน ปรีชา รับสารภาพว่า สาเหตุที่ชิงทองเพราะว่าต้องการเงินเอาไปซื้อปืนไปฆ่าลูกน้องเก่าที่ร่วมกับแฟนเก่าของตัวเองโกงเงินไปหลายแสนบาท

ผู้ต้องหา ยังบอกอีกว่า ได้เอาโทรศัพท์มือถือไปแลกเช่ารถจักรยานยนต์ในพื้นที่ อ.สะเดา ขับมาก่อเหตุ หลังจากชิงทองเสร็จขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้เพื่อให้เจ้าของไปตามคืน เพราะรถติดจีพีเอสอยู่ และจ้างรถเก๋งของชาวบ้านให้ขับมาส่ง ที่อ.หาดใหญ่

โดยลงมือเพียงคนเดียวไม่มีคนอื่นเกี่ยวข้อง และไม่ได้วางแผนล่วงหน้ามาก่อน หลังจากที่ก่อเหตุรู้ดีว่าตำรวจกำลังตามจับ เพราะตลอดเส้นทาง ตั้งแต่ อ.สะเดา มา หาดใหญ่ มีการตั้งด่านตรวจตลอด

ส่วนที่เลือกก่อเหตุร้านทองร้านนี้เพราะลงมือสะดวกอยู่ใกล้ห้องน้ำ ขอโทษที่ก่อเหตุลงไปแต่ยังไงร้านทองก็มีประกันอยู่แล้ว หลังถูกจับกุมตำรวจได้คุมตัว นายปรีชา กลับไปยัง สภ.สะเดาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *