ผิวดำคนแรกสร้างประวัติศาสตร์! ‘รัศมีแข’ สวยมงลง คว้าตำแหน่ง นางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ 2567 มาครองได้สำเร็จ ท่ามกลางความยินดี ของเพื่อน ๆ และแฟนคลับ
สร้างความฮือฮาไม่น้อย สำหรับ “รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น”พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง ที่สานฝันของตัวเอง คว้าตำแหน่งนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ ประจำปี 2567 มาครองได้สำเร็จ
หลังสร้างความประทับใจให้กับกรรมการ และผู้ชมในรอบตอบคำถาม ที่ถามถึงเรื่องความแตกต่างหลากหลายทางเพศในสังคมปัจจุบัน จะทำอย่างไรให้คนที่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ ยอมรับเพศที่แตกต่างหลากหลาย
โดยรัศมีแข ผู้เข้าประกวดหมายเลข 18 ได้ให้คำตอบไว้ว่า “คนเรานี้ไม่ผิดที่จะไม่ชอบ แต่เขาต้องการโอกาส โอกาสที่จะเข้าใจและเปิดใจ และทำให้พวกเขาได้ใช้โอกาสเพื่อรู้จักและเข้าใจคำว่ามนุษย์ เข้าใจว่ามนุษย์เราแตกต่าง ทุกคนล้วนมีความชอบ และเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง จงเปิดใจอย่ายึดติด และจงให้โอกาสแก่ทุกคน ๆ”
งานนี้ไม่เพียงแต่ สร้างประวัติศาสตร์การเป็นผู้เข้าประกวดผิวดำคนแรก ที่สามารถชนะรางวัลและครองตำแหน่งนี้
เธอยังเลือกสวมบทบาทเป็น ‘คุณแม่ปูดำ’ หรือ สรารัตน์ หรุ่มเรืองวงษ์ นางสาวเชียงใหม่ ปี 2529 และเจ้าของตำแหน่งรองอันดับ 2 มิสเอเชียแปซิฟิก หนึ่งในสาวงามที่แฟน ๆ ชื่นชอบและชื่นชมตลอดกาล
อีกทั้งยังสวมใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ที่อิงมาจากประวัติศาสตร์การประกวดนางสาวเชียงใหม่ พร้อมจริตการเดิน การพูด ใช้สายตา ท่วงท่า ถอดแบบเป๊ะปัง มาจากนางงามรุ่นพี่อีกด้วย
ล่าสุดรัศมีแข ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกผ่าน อินสตาแกรมว่า “นางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ 2567
รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ชื่อเดิม นาย เจมส์ ธนันชัย นางสาวเชียงใหม่ในดวงใจผิวสีคนแรก
หรือนางงามผิวมอย
แขเกิดที่จังหวัดภูเก็ต และได้ไปเติบโตที่ บ้านปล้องส้าน ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย ด้วยความที่คุณแม่แข นางตุ๋ย ธนันชัย เกิดและเติบโตที่บ้านสัก ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน แขเลยได้ไปเติบโตที่นั้น ชีวิตที่นั้นทรมานมาก มันโหดร้าย เพราะสีผิวและรูปลักษณ์ของแข ที่เป็นลูกครึ่งเซเนกัล
แขเลยมักจะถูกมองเป็นตัวประหลาดในหมู่บ้านเสมอ แขโดนจับแต่งเป็นเงาะป่า นั่งบนรถแห่เทียนเข้าวัด ข้าง ๆ พี่สาวคนละพ่อที่ผิวขาว เธอถูกให้แต่งเป็นรจนา แล้วตลอดทางที่ไปวัด คนต่างพากันขำ หัวเราะ
แต่แขได้แต่ร้องไห้อยู่ข้างใน เจ็บปวดมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ แขจะถูกเรียกว่านิโกร หรือแม้แต่พยายามจับขึ้นไปบนเวทีมวย เพราะคนบอก เราเหมือน ไมค์ ไทสัน และความโหดร้ายตรงนี้แหละ ที่ทำให้แขไม่อยากกลับไปเชียงรายอีกเลย
จนกระทั่งแขได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ เจอคนเมือง อาหารเมือง วัฒนธรรมล้านนา มันกระตุ้นต่อมความเป็นล้านนาของแข แขกลับไปแก้ไขอะไรในอดีตไม่ได้ และแขแก้ไขรากเหง้าบรรพบุรุษ ของแขไม่ได้
แต่สิ่งที่แขทำได้คือ รักษาและต่อยอดสืบสาน ความสวยงามของวัฒนธรรมล้านนาที่มีในตัวแข ให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นว่าความเป็นล้านนาไม่ได้วัดกันที่รูปลักษณ์อีกต่อไป แขรักในความเป็นคนเมือง ที่ได้มาจากคุณแม่ และมงกุฎนี้ ถือเป็นเกียรติยศของตัวแข คุณแม่ และครอบครัว ธนันชัย จากบ้านปล้องส้าน ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย ตลอดไป
การประกวดครั้งนี่แขบอกเลยว่ายากมาก เพราะทุกอย่างต้องเริ่มต้นจากศูนย์หมด เพราะความเท่าเทียมในการกระกวดที่ ไม่ใช่แค่เพศ แต่เป็นอาชีพ การงาน อายุ การศึกษา หุ่น รูปร่างหน้าตา ทุกคนสามารถเข้ามาประกวดได้ โดยแทบไม่มีข้อจำกัดใด ๆ เลย
แขก็เริ่มจากศูนย์เหมือนนางงามท่านอื่น ๆ ทำกิจกรรมของกอง ทานข้าวกอง เก็บตัว ซ้อมทุกอย่าง แม้ความน่ากลัวของกรรมการ ในห้องดำ แขบอกเลยว่าไม่เคยตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน
แขเครียดมาเป็นเดือน ๆ แล้วถามตัวเองว่ามาประกวดทำไม จนแขได้ตำตอบว่า แขมีฝัน เหมือนกับใครหลาย ๆ คนที่อยากเป็นนางงาม
และเมื่อมีโอกาส แขอยากรู้ว่า ถ้าแขได้ประกวดนางงาม แขจะทำมันได้ไหม แขเต็มที่มากๆ กับการประกวดในครั้งนี้ ตั้งใจสุดๆ เพื่อให้พลาดน้อยที่สุด และพยายามเป็นพี่ปูดำให้ได้มากที่สุดตอนประกวดบนเวที
และสิ่งที่แขได้มาแล้วรู้สึกว่ามีความสุขมากกว่ามงคือ มิตรภาพของครอบครัวนางสาวเชียงใหม่ในดวงใจ และมากกว่านั้นคือ วันนี้พวกเราได้สานต่อเจตนารมณ์ของเวที ที่ต้องการเชิดชูเกียรติอันทรงคุณค่าของ นางสาวเชียงใหม่ ทุกๆ ท่าน ทั้งที่ยังมีชีวิต หรือจากไปแล้วก็ตาม”