พ่อแม่ ‘น้องชมพู่’ วอนคนดูเปิดใจหนังบ้านกกกอก ยืนยันไม่เกี่ยวกับคดีลูกสาว ด้านแรมโบ้อีสาน ลั่น ขอให้ชมก่อน ถ้าเป็นอย่างที่ทุกคนคิด ค่อยมาด่า
ที่โรงภาพยนตร์ เอสเอฟซีนีม่า ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ มีการจัดงานแถลงข่าว “คืนความสุขให้กับบ้านกกกอก” พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ “สวรรค์บ้านนอก กกกอก The Culture ออนซอนอิสาน” โดยมี นายอนามัย และ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา หรือ พ่อและแม่น้องชมพู่มาร่วมงาน และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ชี้แจงประเด็นดราม่าสังคมมองหนังเกาะกระแสคดีฆาตกรรมน้องชมพู่หรือไม่
ถามถึงความรู้สึกที่ได้มาร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์ ?
แม่น้องชมพู่ ยินดีค่ะที่มีหนังเรื่องนี้ที่จะสื่อสารความสวยงามของบ้านกกกอกให้ทุกคนได้เห็น นอกจากภาพคดีฆาตกรรมของน้องแล้ว ยังมีสิ่งสวยงามอีกเยอะให้ทุกคนได้มองบ้านกกกอกในมุมที่สวยงามค่ะ
พ่อ ก็ดีใจนะครับ ทำให้ชาวบ้านมีรอยยิ้มอีกครั้งครับ
ตอนถ่ายทำได้ไปส่งเสบียงอาหารให้ทีมงานนักแสดงด้วย ?
พ่อ ซื้อผลไม้ กับข้าวไปให้ครับ
แม่ ส่งเสบียงค่ะ
ตอนที่เขาจะมาถ่ายทำเรารู้สึกยังไงบ้าง ?
แม่น้องชมพู่ ตอนนั้นเหมือนกับว่าคนในหมู่บ้านจริงๆ หรือในกลุ่มเพื่อนๆ ที่เขาไม่เข้าใจว่าคดีน้องชมพู่มันเกิดยังไง คือบางคนก็มีโทษเราเหมือนกันว่าความโศกเศร้า ความวุ่นวายนี้มันเกิดจากครอบครัวเรา แล้วตอนที่ทีมงานเข้าไปถ่ายทำหนังมันก็เหมือนกับว่าเรื่องคดีเรื่องการสืบมันก็เริ่มซาๆ แล้ว ก็เลยมีทีมงานเข้าไปถ่ายหนังแล้วชาวบ้านทุกคนได้มาเต้น มารำ มาร้องเพลง มันทำให้บรรยากาศความเครียดตรงนั้นมันดีขึ้นค่ะ เราก็รู้สึกยินดีด้วยค่ะ
ย้อนกลับไปวันแรกที่เขาจะมาทำโปรเจกต์นี้ เราคิดมั้ยว่าเขามาทำเพื่ออะไร เกาะกระแสการเสียชีวิตของลูกสาวเรามั้ย ?
แม่น้องชมพู่ เรื่องเกาะกระแสไม่ได้คิดค่ะ แต่เรื่องที่ว่าเขามาทำเพื่ออะไร เราคิดก่อน แต่ว่าก็ได้มีการคุยกันว่ามาทำเพื่ออะไร ทำเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่หรือเปล่า พาดพิงครอบครัวเราหรือเปล่า ทำให้ครอบครัวเราเกิดผลกระทบหรือเปล่า สุดท้ายเราก็รู้ว่าไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัวเรา แต่จะเป็นการสื่อสารเกี่ยวกับความสวยงามของกกกอกมากกว่า”
หมู่บ้านเรามีจุดเด่นอะไรที่อยากนำเสนอ ?
แม่น้องชมพู่ จริงๆ แล้วถ้าเป็นในมุมของตัวแม่เอง ก็คือวัดถ้ำภูผาแอกค่ะ จริงๆ แล้วข้างบนไม่ได้มีความหรูหราสวยงามอะไร แต่ว่ามันเหมือนมีพลังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนกกกอก ไม่ว่าจะเกิดความทุกข์โศกอะไร ก็จะขึ้นไปกราบไหว้ขอพร และวิถีชีวิตพวกเราเป็นชนเผ่าภูไท พูดภาษาท้องถิ่นภูไทที่หลายๆ คนอาจจะไม่ชินไม่คุ้นหูเหมือนภาษาอีสานค่ะ
นอกจากไปส่งเสบียง ไม่อยากไปร่วมแจมในหนังสักนิดเหรอ ?
แม่น้องชมพู่ ตอนนั้นไม่เลยค่ะ ตอนนี้ก็ไม่อยู่ อยากเป็นกำลังใจให้เขาว่าสิ่งที่เขาทำเรามีความยินดี”
ตอนนี้กังวลมั้ย กับกระแสว่าเรามาร่วมโปรโมทหนังเรื่องนี้ ?
แม่น้องชมพู่ ไม่กังวลค่ะ อยากจะให้ทุกคนมองบ้านกกกอกในมุมที่สวยงาม น่ายินดีบ้างค่ะ”
คนดูแค่ชื่อเรื่องก็ตีความไปแล้ว ยังไม่ได้ดูเนื้อหาหนัง ?
แม่น้องชมพู่ อยากให้ทุกคนได้มาดูแล้วคิดเองค่ะว่าจริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ถ้าใครที่คิดว่าเกาะกระแสดราม่าหรืออะไร อยากให้ชมก่อนที่จะตัดสินใจค่ะ
ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลูกสาวเรา ?
แม่น้องชมพู่ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องค่ะ แม่ก็ได้ดูเนื้อเรื่องคร่าวๆ ตอนที่เขามาถ่ายทำ
หนังฉายแล้วคาดหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลยมั้ย ?
แม่น้องชมพู่ ก็อยากนะคะ ถ้าทำให้ทุกคนในหมู่บ้านมีความสุข สมมติว่ามีนักท่องเที่ยวจะเข้าไปในหมู่บ้าน ก็จะเกิดร้านส้มตำ ร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายเสื้อผ้าของฝาก อยากให้ทุกคนมีรายได้แต่ถ้าจะให้แม่ทำโฮมสเตย์น่าจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าคนที่มีทุนก็น่าจะทำได้ ก็คืออยากให้ทุกคนในหมู่บ้านมีรายได้ค่ะ
คิดว่าหนังเรื่องนี้ฉายไป หมู่บ้านเราจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน ?
แม่น้องชมพู่ ก็ภาวนาขอให้ทุกคนมาช่วยกันดูหนังเรื่องนี้เพื่อจะทำให้บ้านกกกอกมีความสุขขึ้น ถ้ามีการดูเยอะๆ แล้วมีคนไปเที่ยวกกกอกเยอะๆ คนในหมู่บ้านเล็กๆ เขาก็จะมีรายได้จากการขายของฝาก ของขวัญหรือว่าการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ อาจจะมีรายได้สร้างขึ้นมาจากตรงนี้
ฝากหนังเรื่องนี้ เปิดใจดูไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เป็นข่าว ?
แม่น้องชมพู่ อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนได้มาดูหนังเรื่องนี้ เพื่อจะเป็นกำลังใจให้ชาวกกกอก ที่ผ่านความโศกเศร้ามา 2-3 ปีเต็มที่มีแต่ความเครียดความกังวลเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ มันเกิดความเครียดเกิดความระแวงซึ่งกันและกันในหมู่บ้านมากมาย อยากให้ทุกคนมาดูหนังเรื่องนี้ อยากให้กกกอกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครผ่านไปผ่านมาได้แวะแล้วสร้างรายได้ให้ชาวกกกอกหมู่บ้านเล็ก ๆ ของเรา
ที่บอกว่าเกิดความระแวงในหมู่บ้านเป็นยังไง ?
แม่น้องชมพู่ ตอนนั้นจะมีทีมสืบ เขาเรียกเอาตัวคนในหมู่บ้านไปสอบสวน สอบปากคำ มันจะมีความเครียด ทุกคนมีความเครียด ถ้าหนังเรื่องนี้จะตอบแทนชาวกกกอกได้โดยการที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยอะๆ ในหมู่บ้านแล้วให้พวกเขาได้ทำร้านขายของเล็กๆ ก็ยังดีค่ะ ตอนนี้ความเครียดในหมู่บ้านก็ซาแล้ว
ด้าน นายสมยศ ศรีสมบูรณ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ กล่าวว่า โปรเจกต์นี้ตอนแรกที่ผมได้นำเสนอ ตนมองว่าบ้านกกกอกเจอแต่เรื่องร้ายมา เลยอยากเล่าเรื่องในมุมที่สวยงาม ที่เราไม่เคยเห็นจากข่าว ตนเป็นคนอีสาน น่าจะเล่าเรื่องได้ในระดับที่พอจะนำเสนอได้โอเค เชื่อว่าจะเป็นการคืนความสุขให้บ้านกกกอก และเราไม่ได้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องน้องชมพู่หรือคดีใด ๆ เราไม่ได้กล่าวถึงบุคคลใดเลย
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ กล่าวว่า ตอนผู้กำกับมาคุยกับตน ก็ยืนยันอย่างเดียวว่า อย่าเอาเรื่องที่มันมีปัญหาทุกข์ใจมาสร้างเป็นหนัง แต่ให้ทำเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ ส่งเสริมวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์บ้านกกกอกให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชิงนิเวศ เราอยากจะให้ภูเหล็กไฟ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอีสาน เราอยากให้เห็นภาพสวยงาม ไม่ใช่พอเห็นว่า แรมโบ้ อีสาน สร้างแล้วดราม่าลง บอกอย่าหากินกับคนตาย ขอให้ชมก่อน อย่าเพิ่งว่า ถ้ามันเป็นอย่างที่ทุกคนคิด ค่อยมาด่า