พ่อแม่ใจสลาย น้องใต้หล้า วัย 1 ขวบ 6 เดือน ฉีดวัคซีนไม่ทันข้ามวันเสียชีวิต ข้องใจสาเหตุการตาย เชื่ออาจเกิดจากการแพ้วัคซีนที่ฉีด
วันที่ 18 ม.ค.2567 น.ส.นิโลบล (สงวนนามสกุล)อายุ 33 ปี และ นายคชภัค (สงวนนามสกุล) แม่และพ่อ พร้อมญาติ เดินทางมายัง รพ.น่าน เพื่อฟังผลชันสูตรการเสียชีวิตของ ด.ช.ณฤทธร (สงวนนามสกุล) หรือ น้องใต้หล้า วัย 1 ขวบ 6 เดือน
โดยครอบครัวเปิดใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของน้องแบบกะทันหัน ทั้งที่เป็นเด็กร่าเริง แข็งแรง ไม่เคยเป่วย และไม่มีโรคประจำตัว โดยปมข้องใจสาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากการแพ้วัคซีน หลัง ย่า และป้า พาเข้ารับการฉีดวัคซีน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 เวลา 11.15 น. และกลับบ้านมา ต่อมาเวลา 16.00 น. พบว่าน้องนอนเสียชีวิตแล้ว
นางคำปุ้ย (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้เป็นย่า เล่าว่า พา น้องใต้หล้า ไปพร้อมกับ นางกฤติกา (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นป้า ไปรับวัคซีนโดยการฉีดและหยอด ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลผาตอ บ้านนาหนุนสอง ต.ผาตอ อ.ท่าวังผา
เมื่อกลับมาถึงบ้านญาติได้ให้น้อง รับประทานอาหาร และทานยาลดไข้ และให้นอนพักผ่อนตามที่แพทย์ รพ.สต.ผาตอ แนะนำ ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. เข้าไปตรวจดูพบว่าหลาน ยังรู้สึกตัวอยู่ตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น. เข้าตรวจดูหลานอีกครั้ง พบว่านอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน ไม่มีอุจจาระและปัสสาวะ แต่สังเกตว่าตัวของหลานซีดเหลือง ไม่ตอบสนองใดๆ
จึงตะโกนร้องเรียกให้ญาติ และเพื่อนบ้านมาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลท่าวังผา โดยที่แพทย์ไม่สามารถลงความเห็นถึงสาเหตุการตายได้ จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าวังผา และขอนำศพผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลน่าน เพื่อหาสาเหตุการตาย
ต่อมาเวลา 14.00 น. นพ.วรินทร์เทพ เชื้อสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน พร้อมด้วย นพ.วสันต์ แก้ววี ผอ.โรงพยาบาลน่าน และ นายนพรัตน์ ถาวงศ์ นายก อบจ.น่าน และ พ.ต.อ.สุริยา ขุนโต ผกก.สภ.ท่าวังผา และแพทย์นิติเวศศาตร์ โรงพยาบาลน่าน ร่วมกันชี้แจงการชันสูตรศพในเบื้องต้น ทางกายภาพ ไม่พบความผิดปกติใดๆ ของการเสียชีวิต
ซึ่งทางญาติติดใจการเสียชีวิต อาจเกิดจากสาเหตุการแพ้วัคซีน ซึ่งครั้งนี้เป็นการ ฉีดกระตุ้นครั้งที่ 4 จะได้ประสานไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยกระบวนนี้ อาจใช้เวลากว่า 1 เดือน ในการตรวจสอบหาสาเหตุของการเสียชีวิตได้
ซึ่งทาง อบจ.น่าน รับประสานดูแลในเรื่องการส่งตรวจ และหากพิสูจน์พบว่าการเสียชีวิตเกิดจากการแพ้วัคซีน ต้องมีการให้การช่วยเหลือ เยียวยาช่วยเหลืออย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามทางญาติย้ำขอให้ทางรัฐช่วยเร่งพิสูจน์หาการเสียชีวิตของ น้องใต้หล้า เพื่อคลายข้อสงสัยถึงสาเหตุการตาย และหากเกิดจากวัคซีน จะได้หาทางแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดกับเด็กคนอื่น
