อีกศพ ผู้คุมเรือนจำ ก่อเหตุสลดคาบ้าน พี่สาว เผยคำพูดสุดเศร้า พบเป็นรายที่ 3 ในรอบไม่กี่เดือน ผงะ เป็นตำแหน่งเดียวกับ 2 รายก่อนหน้านี้ด้วย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ม.ค.2567 พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา สารวัตรใหญ่ สภ.เกาะทวด รับแจ้งเหตุมีคนยิงตัวเองเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง อ.ชะเมา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ และหน่วยกู้ภัยนครจุดบางจาก เ
ที่เกิดเหตุอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน ภายในห้องนอนพบผู้เสียชีวิตชื่อ นายภักดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้คุมเรือนจำอำเภอปากพนัง สภาพนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน ถือปืนพกสั้นอยู่ โดยมีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านมาดูเหตุการณ์จำนวนมาก
อีกศพ ผู้คุมเรือนจำ ก่อเหตุสลดคาบ้าน พี่สาว เผยคำพูดสุดเศร้า พบเป็นรายที่ 3 ในรอบไม่กี่เดือน
จากการสอบถาม นางสาลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี พี่สาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ช่วงสายทางเรือนจำปากพนังโทรมาถามว่าทำไมนาย
ภักดี ไม่ไปทำงานขอให้ไปตามหน่อย ตนจึงเดินมาดูที่บ้านพบประตูบ้านด้านหลังไม่ได้ล็อก เมื่อเข้าไปในห้องนอนพบว่านายภักดีเสียชีวิตจากการยิงตัวเองอยู่บนที่นอนแล้ว จึงแจ้งรีบตำรวจ
ส่วนสาเหตุนั้น นางสาลี กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ทราบว่าผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากินยารักษาตัวอยู่ และได้เลิกรากับภรรยาไปประมาณ 2 ปี มีลูกกับอดีตภรรยา 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตทำงานเป็นผู้คุมอยู่ที่เรือนจำทุ่งสง และได้ย้ายมาอยู่ที่เรือนจำปากพนังได้ 4 เดือน
นางสาลี กล่าวต่อว่า หลังจากผู็ตายเลิกกับภรรยาก็ได้มาอยู่กับตนก่อน จากนั้นก็ได้สร้างบ้านจนแล้วเสร็จ จึงมาอยู่ตามลำพังที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งคนเคยถามว่าเครียดเรื่องปัญหาครอบครัวหรือไม่ ผู้ตายบอกว่าไม่ อยู่อย่างนี้ดีแล้ว
นางสาลี กล่าวอีกว่า และช่วงที่ นายยุทธภพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้คุมเรือนจำปากพนังคนก่อนก่อเหตุสลดที่แฟลตในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ไปหาตนที่บ้านทุกวัน มีท่าทางลุกลี้ลุกลน ไม่สบายใจ และเครียดมาก
นางสาลี กล่าวด้วยว่า โดยผู้ตายบอกว่า ไม่อยากอยู่คนเดียว ซึ่งรู้สึกว่าผู้ตายผิดปกติตอนผู้คุมก่อเหตุสลดต่อเนื่อง แล้วยังพูดกับตนอีกว่าผู้คุมปากพนังก่อเหตุสลดมาแล้ว 2 ราย และรายที่ 3 อาจจะเป็นตนก็ได้
นางสาลี กล่าวว่า ซึ่งตนก็ได้ดุผู้ตายไปว่าอย่าคิดอะไรแบบนั้น ตนก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าผู้ตายคงจะพูดไปกับความเครียดที่เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต และเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ไปหาตนที่บ้าน และพูดกับตนว่า เขาไม่ไหวแล้วอยากกลับไปทำงานที่ทุ่งสงเหมือนเดิม ก่อนมาก่อเหตุสลดดังกล่าว
นางสาลี กล่าวต่อว่า ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าสาเหตุที่ทำอย่างนี้มาจากปัญหาในที่ทำงานหรือปัญหาส่วนตัวจากเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ผู้คุมเรือนจำปากพนังก่อเหตุสลดรายนี้นับเป็นรายที่ 3 ในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยรายแรกได้ก่อเหตุที่บ้านพักในเรือนจำอำเภอปากพนัง รายที่ 2 ก่อเหตุในแฟลตในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช หลังจากถูกย้ายไปแทนที่ผู้คุมที่เสียชีวิต
และรายที่ 3 คือ นายภักดี โดยเป็นที่น่าแปลกใจว่าทั้ง 3 ราย ล้วนเป็นผู้คุมอยู่เรือนจำอำเภอปากพนังตำแหน่งเดียวกันทั้งสิ้น น่าสงสัยว่ามีปัญหาในที่ทำงานหรือไม่
