วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ตัวแทนชาวบ้านหลายพื้นที่ใน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ บุกเข้าแจ้งความเอาผิดกับชมรมฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. และสมาคมสงเคราะห์อำเภอพุทไธสง หลังจากทั้งชมรมและสมาคม ไม่จ่ายเงินค่าปลงศพให้กับสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้วรวมกว่า 8 ล้านบาท ทั้งที่เก็บเงินจากสมาชิกไปทุกเดือน ๆ ละ 200-600 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกแต่ละครอบครัว และยังพบข้อมูลที่ไม่โปร่งใส มีการตั้งวงฌาปนกิจ เหมือนวงแชร์หลอกชาวบ้านว่าจะได้ 2 ต่อ สุดท้ายชวดทั้งหมด
นายสมนึก อายุ 60 ปี เล่าว่า พี่ชายตนเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2566 จนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ยังไม่ได้รับเงินค่าปลงศพ ตอนนี้ครอบครัวของพี่ชายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้องไปกู้เงินมาทำบุญกับงานศพไปกว่า 1 แสนบาท เมื่อไปสอบถามทางสมาคม บอกว่าไม่มีเงินจ่าย ทั้งที่เก็บเงินจากสมาชิกล่วงหน้าไปแล้ว 5 ศพ
ด้านนายวรกร ทนายในพื้นที่และเป็นตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 27 ปีที่ผ่านมา ได้มีการตั้งเป็นชมรมฌาปนกิจสงเคราะห์ อสม. ขึ้นที่ อบต.หนองแวง อ.พุทไธสง ตอนนั้นมีการตกลงว่าจะเก็บศพละ 10 บาท หลังจากนั้นมาประมาณ 10 ปี ได้มีการตั้งเป็นสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์อำเภอพุทไธสง ขึ้นมาอีกวงหนึ่ง ที่ อบต.หายโศก อ.พุทไธสง แต่ใช้คณะกรรมการชุดเดียวกัน โดยให้เก็บสมทบศพละ 20 บาท รวมกับชมรมเดิมอีก 10 บาท ผู้ที่สมัครวงนี้จะต้องจ่ายศพละ 30 บาท ในคราวเดียวเป็นอัตโนมัติ
โดยพี่น้องส่วนใหญ่สนใจสมัครเพิ่มอีกวง เพราะวงที่ 2 จะได้รับเงินศพละ 6 หมื่นบาท บวกกับวงแรกจะได้รับเงินศพละ 5 หมื่นบาท มีชาวบ้านหลงเชื่อสมัครเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว มีคนส่งเงินไปแล้วกว่า 1.3 แสนบาท เท่ากับขาดทุนหากนำเงินที่จะได้มาบวกลบกัน ทั้งนี้ สิ่งที่เจ็บใจมากกว่านั้น คือญาติผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ได้รับเงิน
เรียบเรียง มุมข่าว
