เศรษฐีนีวัย 63 ปี และเลขาสาวใหญ่ถูกยิ งเสียชีวิตในบ้านพักอำเภอหัวหิน หลังลูกชายเอะใจติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน ตัดสินใจเดินทางจากกรุงเทพฯ พบบ้านปิดล็อกสนิท ตัดสินใจปีนบานเกร็ดเข้าไป ได้กลิ่นเหม็นผิดปกติจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
จากกรณีลูกชายและลูกสะใภ้ของนางภัทร (นามสมมุติ) รู้สึกผิดสังเกตุที่ติดต่อแม่ไม่ได้หลายได้วัน จนเดินทางจากกรุงเทพฯ มาหาแม่ที่หัวหิน แต่พบบ้านปิดล็อก แต่แอร์ยังทำงานอยู่ จึงตัดสินใจปีนเข้าไปทางหลังบ้าน และได้กลิ่นเหม็นโชยรุนแรง จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ กระทั่งพบร่างนางภัทร (นามสมมุติ) อายุ 64 ปี เศรษฐีนีเจ้าของธุรกิจหล่อพระ สังฆภัณฑ์ ทำโต๊ะมุก ผ้าม่านในอำเภอหัวหิน ถูกยิ งเข้าที่บริเวณหน้าอกเสียชีวิตภายใน ใกล้กันยังพบร่า งของ นางสุ เลขา อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยอา วุ ธ ปื นกล็อค19 ขนาด 9 มม.กระสุนเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตอยู่ในห้องกระจก ในบ้านพักที่เป็นตึกแถว 3 ชั้นริมถนนคันคลองชลประทาน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (10 มี.ค.67)
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ. กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน นางภัทร์ เศรษฐีนี เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน สภาพสวมเสื้อชั้นใน กางเกงชั้นใน ส่วนนางสุ เลขา เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน สภาพเสื้อผ้าคล้ายชุดนอน พบอา วุ ธ ปื น ในที่เกิดเหตุ เป็นอา วุ ธ ปื น ล็อค19 ขนาด 9 มม. ยังมีกระสุนในรังเพลิง โดยการตรวจสอบเบื้องต้น ตั้งประเด็นการเกิดเหตุว่า อย่างแรก เป็นการฆ่-าตัวต-าย อย่างที่สอง เป็นอุบัติเหตุปื นลั่นและมีการฆ่-าตัวต-าย จากนั้นได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่งชันสูตรที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลหัวหิน เพื่อให้ทราบสาเหตุของการเสียชีวิต ส่วนอาวุธปื-นให้พิสูจน์หลักฐานตรวจพิสูจน์ DNA.ว่าเป็นของใคร พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน ซึ่งในเบื้องต้นจากการตรวจแล้วคาดว่า จะเป็นบุคคล 2 คนที่เกิดเหตุฆ-าตกรรมกันเอง
ทั้งนี้มีรายงานว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบโกศบรรจุกระดูก วางตั้งอยู่ 2 อัน และพบพินัยกรรม และจดหมายลาตา ยของนางสุ โดยฉบับแรก ระบุวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ใจความว่า ถ้านางสุได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุอันใดก็ตามขอมอบบ้านและที่ดิน 2 แปลงให้กับลูกสาวทั้งสองคน โดยแบ่งให้คนละ 50 % ส่วนสามีชาวต่างชาติ ให้อยู่ในบ้านและที่ดินได้จนวันต าย แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินและบ้าน ส่วนฉบับที่ 2 ระบุว่า ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ภัทร ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ซึ่งทางตำรวจได้เก็บจดหมายทั้ง 2 ฉบับไว้เป็นหลักฐาน เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป