บุกจับสาว24 ปล่อยกู้ดอกโหดร้อยละ 300 ส่งช้าปรับชั่วโมงละ 50 บาท พบเหยื่อเพียบ เผยวิธีเลือกคนหน้าตาดี เพราะประจานให้อับอาย ได้เงินคืนง่าย
วันที่ 11 ม.ค. 67 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 และเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 เจ้าหน้าที่สืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวบก.สอท.5 นำหมายค้นศาลจังหวัดหลังสวนที่ 1/2567 ลงวันที่ 9 ม.ค. 67 ค้นบ้าน ในพื้นที่ ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
จับกุม นางสาวศิริรัตน์ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลาง สมุดสำหรับไว้จดรายชื่อลูกค้า ยอดเงินต้น และดอกเบี้ย จำนวน 6 เล่ม โทรศัพท์ 1 เครื่อง ใช้สำหรับการโพสต์ปล่อยกู้เงินและทวงเงินลูกหนี้ สัญญากู้ยืมเงิน จำนวน 6 ชุด
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่งโพสต์ขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องเงินกู้นอกระบบผ่านเฟซบุ๊กลงในกลุ่มสาธารณะ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
จากข้อมูลของผู้เสียหายทราบว่า เมื่อประมาณวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ผู้เสียหายได้กู้ยืมเงินจากบัญชี เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่ง จำนวน 6,000 บาท โดยมีกำหนดว่าผู้กู้เงินต้องจ่ายดอกเบี้ยลอยวันละ 600 บาทก่อนเวลา 16.00 น. ของแต่ละวัน จนครบ 10 วัน
หากจ่ายล่าช้าจะถูกปรับชั่วโมงละ 50 บาท และหากปล่อยข้ามวันจะต้องถูกปรับวันละ 500 บาท เมื่อถึงวันผู้เสียหายต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นจำนวนเงิน 6,600 บาท แต่ผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาจ่ายได้ทันตามกำหนด
จึงจำเป็นต้องยอมจ่ายแค่ดอกเบี้ยเรื่อยมา โดยเมื่อคำนวนเฉพาะดอกเบี้ยที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่กู้จนถึงวันที่31 ธันวาคม 2566 รวมเป็นเงินประมาณ 226,920 บาท หรือคำนวณอัตราดอกเบี้ยได้ประมาณ ร้อยละเกือบ 300 ต่อเดือน
ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนหาจนทราบว่าเจ้าของเฟซบุ๊กเป็นเครือข่ายแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกโหดในพื้นที่จังหวัดชุมพร ซึ่งมักมีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้ลูกค้ามากู้เงินผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยเน้นเลือกปล่อยกู้ให้เฉพาะลูกค้าที่เป็นผู้หญิงหน้าตาดีที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชุมพร
เนื่องจากสามารถติดตามทวงถามได้ง่ายเพราะลูกค้ากลุ่มนี้กลัวที่จะโดนคุกคามและโพสต์ประจานให้อับอาย หากไม่สามารถจ่ายเงินคืนตามเงื่อนไขได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดหลังสวน พร้อมนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านในพื้นที่ จ.ชุมพร พร้อมจับกุม น.ส.ศิริรัตน์ เจ้าของเฟซบุ๊ก
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ทำมาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยกู้เงินจากแหล่งอื่นเพื่อมาปล่อยกู้ดอกโหดอีกทอดหนึ่ง จากหลักฐานพบว่ามีลูกค้าตกเป็นเหยื่ออีกนับร้อยราย นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าผู้ต้องหาเคยโดนดำเนินคดีกรณีที่นำภาพถ่ายลูกค้าที่ไม่ยอมคืนเงินไปติดประจานในหมู่บ้านอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ (1)เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต
พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเอกสารและแชทหลักฐานเกี่ยวกับการให้กู้ยืมเงินนอกระบบอีกหลายรายการจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสภ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
