เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 09 มิ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดทันสมัยพัฒนาราม หมู่ 15 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้พบกับ พระคชรพล ฐิตธัมโม อายุ 63 ปี ตำแหน่งรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดทันสมัยพัฒนาราม ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ทีผ่านมา ได้มีชาวบ้านเดินทางไปนิมนต์ตน ที่เคยจำวัดอยู่ในเขตต.ประดู่ยืน โดยมาพร้อมกับพระอีก 2 รูป ให้มาอยู่ที่วัดทันสมัยพัฒนาราม ที่ ต.น้ำรอบ โดยตัวพระเองได้มารักษาการแทนเจ้าอาวาส ที่วัดแห่งนี้ เนื่องจากที่วัดแห่งนี้ ไม่มีพระอยู่เลยสักรูปหนึ่ง
หลังจากที่ตัวพระและพระลูกวัดอีก 2 รูป ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่วัดแล้ว ขณะที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดที่วัด คืนแรก ตัวพระเองก็นอนอีกกุฏิหนึ่ง ส่วนอีกพระลูกวัดอีก 2 รูป ก็ย้ายแยกเข้านอน คนละกฏิ กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 8 มิ.ย. ได้มีพระลูกวัดชื่อพระต้อม อายุ 51 ปี เดินมาบอกกับตัวพระเองว่า เมื่อคืนนอนที่กุฏิไม่หลับเลย นอนไม่ได้ทั้งคืน ซึ่งกุฏิของพระต้อมนั้น จะเป็นกุฏิไม้ยกสูง หลังจากนั้นตัวพระเองก็ยังไม่คิดอะไร คิดว่าคงยังไม่ชิน
ล่าสุด ตัวพระเองและพระต้อม พร้อมพระอีก 1 รูป ได้เดินไปดูรอบ ๆ ที่กุฏิของพระต้อม ซึ่งที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่รกร้าง จึงได้ลงมือช่วยกันทำความสะอาดแถวบริเวณกุฏิของพระต้อม ขณะที่รื้อของเก็บกวาด ได้มองไปเห็นจอมปลวกแปลก รูปร่างคล้ายฐานองค์พระพุทธเจ้า โดยมีเศียรอยู่ที่ศรีษะ ติดอยู่กับต้นเสา ซึ่งอยู่ใต้ล่างกุฏิของพระต้อม ตัวพระเอง จึงได้รีบทำความสะอาด และแยกขยะตามนั้นออกมา
พร้อมกับบอกชาวบ้าน ให้มาจุดธูป ไหว้เจ้าที่เจ้าทางกับจอมปลวกแห่งนี้ และจะปรึกษาหารือกับกรรมการวัดและชาวบ้านอีกครั้ง หากชาวบ้านนั้น ศรัทธาก็จะหาอาจารย์ผู้รู้ให้มาทำพิธี ว่าจะย้ายไปจุดไหนจุดหนึ่งภายในวัด เพื่อตั้งศาลให้กับจอมปลวก เนื่องจากมองสภาพแล้ว คล้ายไม่เหมาะสม เนื่องจากอยู่ใต้ล่างกุฏิของพระ ซึ่งญาติโยมสร้างไว้ตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา
ทางด้าน พระต้อม ได้เปิดเผยว่า ตัวพระเองได้ย้ายมาอยู่กับพระคชรพล รักษาการแทนเจ้าอาวาส และพระอีกรูปหนึ่ง ที่วัดแห่งนี้ โดยนอนคนละกุฏิ โดยคืนแรก ตัวพระเองก็ได้เข้านอน โดยนำหมอนไปนอนติดกับหัวเสา ซึ่งด้านล่างกุฏินั้นมีจอมปลวก โดยขณะนั้นตัวพระเองยังไม่ทราบว่ามีจอมปลวกอยู่ใต้ล่างกุฏิ ช่วงกลางคืนระหว่างนอน ตัวพระเองนั้นนอนกระสับกระส่าย รู้สึกปวดหัว นอนไม่หลับทั้งคืน ได้แต่มองดูแต่นาฬิกา ว่าเมื่อไหร่จะเช้า
จนกระทั่งรุ่งเช้าอีกวัน ตัวพระเองรีบตื่นแล้วเดินไปบอกกับพระคชรพล รักษาการแทนเจ้าอาวาส ว่าตัวพระเองนอนไม่หลับทั้งคืน ไม่ทราบสาเหตุ พอมาทราบอีกทีก็รุ่งเช้าวันที่สอง หลังที่มาช่วยกันทำความสะอาด จึงได้ไปเห็นจอมปลวกอยู่ใต้กุฏิ ที่ตัวพระเองได้นอนทับจอมปลวกอยู่ด้านบนกุฏิทั้งคืน พร้อมกับตัวพระเอง ได้ขอหันเปลี่ยนทิศทางนอนตรงจุดอื่น โดยนำพระพุทธรูปมาตั้งโต๊ะบูชากราบไหว้ ไว้ตรงจุดที่ติดกับหัวเสาบนกุฏิ ซึ่งใต้ล่างกุฏินั้น จะตรงกับจอมปลวกพอดี
ทั้งนี้ ตัวพระเอง คาดว่า สาเหตุที่นอนไม่หลับทั้งคืน คาดว่า ตัวพระเองน่าจะไปนอนทับจอมปลวกที่อยู่ใต้ล่างอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เนื่องจากคืนต่อมา ตัวพระเองก็นอนหลับปกติ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุทัยธานี ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน