หนุ่มเคนย่า อ้างตนเป็น ‘พระเยซู’ ชาวบ้านขอทดสอบอภินิหาร ด้วยการ ‘ตรึงกางเขน’ ว่าจะตายแล้วฟื้นจริงไหม ด้าน เจ้าตัวเผ่นแน่บ
กำลังเป็นไวรัลถูกพูดถึงในขณะนี้ เมื่อสื่อต่างประเทศ fatunetwork เผยเรื่องราวของ เอลิอุด สิมิยู (Eliud Simiyu) ชายชาวเคนย่ารายหนึ่งที่ประกาศอ้างว่า ตนเองเป็นพระเยซู ก่อนที่เจ้าตัวจะต้องหนีตายหัวซุกหัวซุน หลังกลุ่มชาวบ้านขอทดสอบอภินิหารด้วยการตึงกางเขน
ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเคนยา ชายคนหนึ่งอ้างว่าตนเองเป็นพระเยซูคริสต์ เขาคือ เอลิอุด สิมิยู (Eliud Simiyu) ซึ่งเจ้าตัวมักจะเผยแพร่ความเชื่อแบบสุดโต่ง
ภาพประกอบ จาก nairobigossipclub
ก่อนจะมีรายงานว่า เอลิอุด ได้หลบหนีไปยังสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด หลังจากได้ยินชาวบ้านในพื้นที่ต้องการพิสูจน์อภินิหารของเขาด้วยการ ตึงไม้กางเขนในวันอีสเตอร์
ท่ามกลางความตึงเครียดในเมือง เจ้าตัวจึงตัดสินใจเผ่นแน่บไปพึ่งพาตำรวจในพื้นที่ทันที เพราะหวั่นชะตากรรมจะจบไม่สวย
ด้านผู้ติดตามและลูกศิษย์ของ เอลิอุด รวมตัวกันเพื่อปกป้อง และยืนยันว่า เขาเป็นของจริง และเขาจะฟื้นคืนชีพอีกครั้งในวันที่ 3 ทว่าชาวบ้านในเมืองกลับไม่เชื่อ และมองว่าเป็นคนหลอกลวง ต้มตุ๋น ทั้งยังเป็นอันตรายต่อสังคม
ภาพประกอบ จาก nairobigossipclub
ในการให้สัมภาษณ์กับข่าวท้องถิ่น เอลิอุด ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่า “ฉันไม่ใช่นักต้มตุ๋น ฉันคือพระเยซูคริสต์ที่แท้จริง และฉันมาที่นี่เพื่อช่วยโลก”
ท่ามกลางชาวเน็ตที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกสนาน อาทิ
- ถ้าพระเยซูทรงเป็นชาวเคนยา พระองค์จะทรงเปลี่ยนน้ำเป็นชาหรือไม่
- ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาจะเสิร์ฟชาและขนมปังกรอบตอนถูกตรึงกางเขน
- ถ้าพระองค์ทรงเป็นพระเยซูจริงๆ เขาก็ไม่ควรกลัวการตรึงกางเขนแม้แต่น้อย มันเป็นเพียงการทดสอบศรัทธา!
ภาพประกอบ จาก nairobinews
ทั้งนี้ เอลิอุด เคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ในข้อกล่าวหาว่าดำเนินลัทธิทางศาสนาในตองกาเรน โดยอ้างว่าเป็นพระเยซูคริสต์ โดยสอนอุดมการณ์สุดโต่งให้กับผู้ติดตามของเขา ซึ่งบางคนเป็นผู้เยาว์ ตลอดจนฝึกฝนและส่งเสริมการฟอกเงิน
ก่อนจะถูกปล่อยตัวเนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ
งานนี้ คงต้องติดตามชมกันต่อไปว่า เอลิอุด จะสามารถโน้มน้าวใจชาวบ้านในท้องถิ่นให้เชื่อในอภินิหารและอิทธิฤทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมอันเจ็บปวดบนไม้กางเขนได้หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็ คือ เทศกาลอีสเตอร์ปีนี้กำลังจะกลายเป็นงานที่แสนจะลุ้นระทึก!
ภาพประกอบ จาก fatunetwork
ภาพประกอบ จาก nairobigossipclub
ที่มา : fatunetwork, nairobigossipclub, nairobinews
