สมาชิกก้าวไกลเมาขับกระบะชนจยย.ดับ เพื่อนคนตายรุมยำ ตร.วัดแอลกอฮอล์พุ่งถึง 287 เหตุเกิดริมถนนปากซอยแบริ่ง ตร.คุมตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 1 ก.ย.66 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่ามีอุบัติเหตุบนถนนสายแบริ่ง ช่วงปากซอยแบริ่ง ซอย 8 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ ระหว่างรถกระบะกับรถจักรบยานยนต์ มีคนขับรถจักรยานยนต์อาการสาหัสนอนจมกองเลือด จึงส่งรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลสมุทรปราการ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างของคนขี่รถจักรยานยนต์ ทราบชื่อนายณัฐพล อายุ 28 ปี นอนแน่นิ่งจมกองเลือด ทั้งกู้ชีพและกู้ภัยพยามช่วยกันยื้อชีวิตช่วยนายณัฐพล แต่ไม่เป็นผล พบว่าเสียชีวิตคาที่ จึงประสานพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถกระบะ สีดำคันหนึ่ง จอดขวางกลางถนนในลักษณะกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย โดยมีรถจักรยานยนต์คู่กรณีที่มีนายณัฐพล คนขับที่เสียชีวิต ขับมานั้น ถูกชนพังยับติดคาหน้ารถกระบะคันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่ารถกระบะคันดังกล่าวมีการติดโลโก้ของพรรคก้าวไกลที่กระจกบังลมด้านหน้าอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปทำแผนที่จุดเกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐาน
โดยมีพี่สาวของผู้ตายที่ทราบข่าว รีบเดินทางมาดูที่เกิดเหตุและถึงกับเข่าทรุดนั่งกองกับพื้น ร่ำไห้กอดศพน้องชายตนเองด้วยความเสียใจ ส่วนคนขับรถกระบะคู่กรณี ยืนรอให้การกับทางตำรวจอยู่ โดยเจ้าตัวสวมเสื้อของพรรคและมีกลิ่นสุราโชยออกมาจากลมหายใจจนได้กลิ่นชัดเจน
ระหว่างที่ตำรวจกำลังสอบสวนและทำแผนที่ในที่เกิดเหตุนั้น ปรากฏว่ามีเพื่อนผู้ตายและญาติของคนตายบางคน เกิดความแค้นคนขับรถกระบะคันนี้ เข้าชกหน้าชายคนขับรถอย่างจังจนเกือบล้มทั้งยืนถึง 2 ครั้ง ตำรวจรีบห้ามปรามก่อนจะแยกตัวทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
ส่วนคนขับพบว่าคิ้วขวาถึงกับแตกจนเลือดไหล กู้ภัยจึงปฐมพยาบาล นายณัฎฐกรณ์ พิมพยอม อายุ 48 ปี คนขับรถกระบะคันนี้ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล โดยเจ้าตัวให้การทั้งกลิ่นสุราอ้างว่า ขับรถมาถึงปากซอยดังกล่าวเปิดไฟเลี้ยวขอทาง เพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยแล้ว แต่รถจยย.คู่กรณีมาทางตรงไม่ยอมเบรกให้ จึงพุ่งชนเต็มแรง
เมื่อถามว่าเห็นไหมว่ามีรถจยย.มาทางตรง เจ้าตัวบอกว่าเห็น แต่ก็เปิดไฟเลี้ยวขอทางแล้วเช่นกัน ทีนี้ตำรวจจึงเชิญตัวไปที่ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดว่าสูงกว่ากฎหมายกำหนดแค่ไหน เพราะเจ้าตัวมีกลิ่นสุราแรงมาก
พอไปถึงตำรวจนำเครื่องวัดมาให้เจ้าตัวเป่า ผลปรากฏว่าขึ้นสูงถึง 287 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงกว่ากฎหมายกำหนดไว้ถึง 5 เท่า ตำรวจจึงแจ้งข้อหาหนักคือเมาสุราแล้วขับเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย