September 19, 2024

บุกช่วย เด็กหญิง 7ขวบ ถูกแม่ส่งขายแลกเงิน4พัน ผ่านกลุ่มปิดเฟซบุ๊ก

 

 

 

 

 

 

 

บุกช่วย เด็กหญิง วัย 7 ขวบ ถูกแม่ส่งขายสาววัย 21 ปี แลกเงิน 4,000 บาท ผ่านกลุ่มปิดเฟซบุ๊ก เตรียมขยายผลค้ามนุษย์ จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

วันที่ 31 มี.ค.2567 ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.บช.น.) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ ประธานกลุ่มเป็นหนึ่ง พา นางวิภาดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อาชีพรับเลี้ยงผู้ป่วยติดเตียง เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. เพื่อให้ช่วยติดตาม ด.ญ.เอ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 7 ขวบ ที่ขาดการติดต่อจากการมอบให้ผู้อุปการะรับไปดูแลผ่านเฟซบุ๊ก

น.ส.ชลิดา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา นางวิภาดา แม่ของเด็ก ได้ส่งเรื่องราวผ่านทางเพจเป็นหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยติดตามลูกสาววัย 7 ขวบ พร้อมกับเล่าเรื่องราวว่า ตนเองมีฐานะยากจน ประกอบกับมีลูก 2 คนและกำลังตั้งครรภ์ 1 คน ไม่มีเงินที่จะเลี้ยงลูกเลยคิดจะเอาลูกไปหาคนมาอุปการะเพื่อชีวิตลูกจะดีกว่า

บุกช่วย เด็กหญิง วัย 7 ขวบ ถูกแม่ส่งขายสาววัย 21 ปี แลกเงิน 4,000 บาท ผ่านกลุ่มปิดเฟซบุ๊ก เตรียมขยายผลค้ามนุษย์ จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

บุกช่วย เด็กหญิง วัย 7 ขวบ ถูกแม่ส่งขายสาววัย 21 ปี แลกเงิน 4,000 บาท ผ่านกลุ่มปิดเฟซบุ๊ก เตรียมขยายผลค้ามนุษย์ จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

จึงเข้ากลุ่มปิดในเฟซบุ๊กที่ประกาศรับอุปการะเด็ก และได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า “พลอย” ก่อนจะพูดคุยกันถึงเรื่องที่จะรับอุปการะลูกของตน โดยที่เชื่อสนิทใจว่า น.ส.พลอย จะนำลูกตนไปเลี้ยงให้ดี ก่อนที่จะนำตัวไปส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี

หลังจากนั้นตนได้ทักไปถามไถ่ว่าลูกเป็นอย่างไรบ้าง แต่น.ส.พลอยบ่ายเบี่ยงไม่ให้พูดคุย ไม่ให้วิดีโอคอล และบอกว่าลูกของตนมีพฤติกรรมไม่ดีเพราะขโมยของ ซึ่งตนก็ยืนยันว่าลูกไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น และก็แจ้งกับทางผู้ที่รับไปเลี้ยงว่าจะขอรับลูกกลับคืนได้ไหม

ทาง น.ส.พลอย กลับบอกว่าถ้าอยากได้ลูกคืนก็ให้โอนเงินมาคืน 4,000 บาท เพราะวันที่ไปส่งลูก ทางฝ่ายคนรับเลี้ยงให้เงินมาบอกว่าเป็นสินน้ำใจและค่าเดินทาง 4,000 บาท ตนก็เลยบอกว่าจะคืนให้แน่นอน จะคืนให้พร้อมวันที่ไปรับลูก แต่ภายหลังไม่สามารถติดต่อได้เลยจนถึงทุกวันนี้ จึงมาขอให้มูลนิธิฯประสานเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ

ต่อมา พ.ต.อ.ศานติ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนทำการสอบปากคำในเบื้องต้น พร้อมบูรณาการกำลังกับฝ่ายสืบสวน สภ.คลองหลวง ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ เพื่อทำการช่วยเหลือ ก่อนจะพบตัวของ น.ส.พชร หรือ พลอย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา อาชีพรับเลี้ยงเด็ก โดยเจ้าตัวระบุว่า ได้มีการพาเด็กไปฝากเลี้ยงไว้กับแม่ที่ย่านสุขสวัสดิ์ และไม่ได้มีเจตนาที่จะลักพาตัว ตามที่เข้าใจ

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว น.ส.พลอย ไปยังบ้านที่ย่านสุขสวัสดิ์ เมื่อไปถึงก็พบ ด.ญ.เอ อยู่ใน บ้านที่เป็นลักษณะห้องเช่า อยู่รวมกับเด็กอีก 1 คน ก่อนนำตัวนางวิภาดา และลูกสาว รวมทั้ง น.ส.พลอย เพื่อมาสอบสวนที่ กก.ดส. ประสานเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มาร่วมสอบปากคำ

นางวิภาดา กล่าวว่า ตนมีลูก 2 คน คนโตเป็นลูกสาวอายุ 6 ขวบ คนเล็กเป็นลูกชายอายุ 3 ขวบ แต่ด้วยความที่ฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะเลี้ยงลูก จึงหาคนอุปการะผ่านทางเฟซบุ๊ก จนรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อว่า น.ส.พชร หรือ พลอย จึงมีการพูดคุยกันเรื่องรับอุปการะลูกของตน

น.ส.วิภาดา กล่าวต่อว่า และได้นัดหมายให้มีการส่งเด็กในวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยน.ส.พลอยเป็นผู้แชร์โลเคชั่นมาให้ จากนั้นตนได้เดินทางจาก จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับลูกสาว ถึงจุดนัดพบซึ่งเป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี แต่ไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้ ให้ปล่อยลูกของตนไว้ตรงนั้น เดี๋ยวออกไปรับเอง

ต่อมานางวิภาดา ได้มีการถามไถ่ความเป็นอยู่ของลูกสาวตนเอง แต่อีกฝั่งมักจะบ่ายเบี่ยงไม่ให้มีการพูดคุยหรือวีดีโอคอลเห็นหน้ากัน อีกทั้งยังบอกอีกว่าลูกสาวของตนมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อยอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนก็ยืนยันว่าลูกไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น พร้อมกับจะขอลูกคืน

ซึ่งน.ส.พลอยบอกว่าถ้าอยากได้ลูกคืนก็ให้โอนเงินมา 4,000 บาท เพราะวันที่ไปส่งลูกน.ส.พลอยก็เป็นคนให้เงินมา 4,000 บาทเช่นเดียวกัน หลังจากพูดคุยกันเสร็จปรากฏว่า นางวิภาดาไม่สามารถติดต่อน.ส.พลอยได้อีกเลย จึงประสานไปหาเพจกลุ่มเป็นหนึ่งเพื่อเข้าช่วยเหลือ

ขณะที่ น.ส.ชลิดา กล่าวว่า มีข้อมูลที่ค่อนข้างย้อนแย้งกับสิ่งที่นางวิภาดาเล่า โดยนางวิภาดามีพฤติกรรมที่หาผู้รับอุปการะเลี้ยงดูลูกสาวอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มีการตกลงว่าจะจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท แต่น.ส.พลอยจะขอจ่าย 4,000 บาทก่อน พร้อมกับดูพฤติกรรมถ้าหากดีก็จะจ่ายส่วนที่เหลือให้ภายหลัง

แต่ทว่านางวิภาดา ต้องการเงินที่เหลือจึงได้มีการพยายามทวงเร่งรัดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งในขณะที่ลูกสาวของนางวิภาดา อยู่ในการดูแลของน.ส.พลอย นางวิภาดาก็ยังมีการประกาศหาผู้รับอุปการะลูกสาวของตนอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งต้นอ้อยืนยันว่า เคสนี้จะมุ่งเน้นไปที่การช่วยเหลือเด็ก หลังจากนี้จะให้เด็กอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ พม. ทั้งนี้ ขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยตรวจสอบกรณีกลุ่มปิดตามโซเชียล ที่มีลักษณะซื้อขายเด็ก หรือรับอุปการะต่าง ๆ ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก และเชื่อว่าคนที่ไม่พร้อมจะมีลูกมีเยอะ ซึ่งสามารถปรึกษาหน่วยงานรัฐผ่านสายด่วน พม. โทร 1300 เพื่อช่วยหาทางออก ไม่ใช่การนำลูกมาขายแบบนี้ด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ น.ส.ชลิดา ระบุว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดส. แจ้งข้อหา น.ส.พลอย ในข้อหา พรากผู้เยาว์ฯ และประสาน บก.ปคม เพื่อจะขยายผลว่าจะเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่

ส่วนนายจ้างของน.ส.พลอยแจ้งว่า น.ส.พลอยมีโทรศัพท์หลายเครื่องมาก และมีการพูดคุยที่ผิดปกติ และน.ส.พลอยก็กำลังจะลาออกจากงานเพื่อเดินทางไปประเทศจีน โดยทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ส่วนนางวิภาดารอการสืบสวนและคัดแยกเหยื่อจากเจ้าหน้าที่ พม. และอาจจะต้องดำเนินคดีค้ามนุษย์กับผู้เป็นแม่เพิ่มเติมต่อไป

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *