September 19, 2024

รู้จักแร่แคดเมียม อันตรายมาก เป็นสารก่อมะเร็ง เผยอาการเมื่อเข้าสู่ร่างกาย

 

 

 

 

 

 

จากกรณี กรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาแถลงเรื่องที่มีผู้ร้องเรียนว่า มีบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ได้ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบใน จ.ตาก ให้กับบริษัทหนึ่ง ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.สมุทรสาครกว่าหมื่นตัน ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง

เนื่องจากกากแร่ดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็ง และการขนย้ายจากบ่อฝั่งกลบที่ จ.ตากออกมาที่ จ.สมุทรสาคร ถือเป็นการกระทำความผิดที่รุนแรงมาก จะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านสุขภาพอนามัย เพราะเก็บใส่ถุงบิ๊กแบ็คในอาคารและนอกอาคารพันกว่าถุง ทั้งนี้ต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประกาศเขตภัยพิบัติฯ

สำหรับแร่แคดเมียม เป็นโลหะหนัก สีเงินขาว แวววาวเป็นสีน้ำเงินจางๆ ไม่มีกลิ่น สามารถทำปฏิกิริยาเคมีอย่างรุนแรงกว่าสารที่ให้ออกซิเจน เช่น กำมะถัน ซีลีเนียม และเทลลูเรียม ในทางอุตสาหกรรม เนื่องจาก แคดเมียม ทนทานต่อการสึกกร่อน จึงนำไปฉาบผิว

โลหะต่างๆ เช่นเหล็ก เหล็กกล้า ทองแดง โดยทั่วไปนำไปใช้ในการชุบโลหะ นอกจากนี้ยังใช้ผสมกับทองแดง นิกเกิล ทองคำ บิสมัท และอะลูมิเนียม เพื่อให้ได้สารประกอบที่หลอมตัวง่าย

นอกจากนี้ แคดเมียม ถูกใช้ทำสารกำจัดเชื้อรา สารกำจัดแมลง สารกำจัดหนอน ใช้ทำเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี เม็ดสี สี และแก้ว อีกด้วย เมื่อมีการสูดดมสารแคดเมียม ร่างกายจะเก็บสะสมไว้ในตับ และส่วนของหมวกไต ในร่างกายมนุษย์ถึง 30 ปี นอกจากนี้จะพบสารแคดเมียมได้ในปอด และมีความเสี่ยงเกิดอันตรายส่วนของไต เพราะทำให้หน้าที่การกรองของไตลดลง

เมื่อเข้าสู่ร่างกายเพียงเล็กน้อย มีผลต่อระบบไต ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดฝอยแข็งตัว หัวใจวาย เป็นแผลเรื้อรังในปอด ถุงลมโป่งพองและทำให้กระดูกเปราะแตก มีรูปร่างผิดปกติ เจ็บปวดทรมาน หรือเป็นโรคอิไต-อิไต

อาการ หลังได้รับสารแคดเมียม อาการที่ได้รับสารแคดเมียมจากการกิน จะทำให้เกิดการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย มีปวดศีรษะ กล้ามเนื้อ ปวดท้องและปอด โดยไตและตับจะถูกทำลาย ถ้าหากหายใจควันเข้าไปในปอด ก็จะมีอาการเจ็บคอ หายใจสั่น มีเสมหะเป็นเลือด น้ำหนักลด โลหิตจาง การหายใจจะลำบากมากขึ้นสุดท้ายก็จะไตวาย

ขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิงจาก คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล

เรียบเรียง มุมข่าว

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *