ผู้จัดการ ร้านชาบูดัง เผย เจ้าของแจ้งความแล้ว ครอบครัวแสบ คีบทิชชูลงหม้อชาบู แฉพฤติกรรม ท้าเปิดกล้องถูกโวยซ้ำ จนต้องลดราคา ทำร้านเสียชื่อ ลูกค้าทยอยเช็กบิล
จากกรณี ร้านชาบูชื่อดัง ย่านสนามบินน้ำ โพสต์คลิปเหตุการณ์ที่กลุ่มลูกค้า 3 คน แอบคีบกระดาษทิชชูลงในหม้อชาบูอย่างแนบเนียน พร้อมกับโวยวายและตำหนิพนักงานในร้านว่า ทางร้านนำอาหารที่มีกระดาษทิชชูมาเสิร์ฟให้ จนทำให้ลูกค้าที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้านทยอยเช็กบิลออกจากร้านอาหารไปจนเกือบหมดร้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 5 เม.ย.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ยังร้านชาบูดังกล่าว ย่านสนามบินน้ำ โดยได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ดวงกมล (ขอสงวนนามสกุล) ผู้จัดการร้าน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. มีลูกค้า 3 คน ลักษณะเหมือนกับครอบครัว พ่อแม่ลูก เข้ามานั่งสั่งอาหารในร้านทาน
โดยทางร้านได้คิดราคาค่ารับประทานแบบบุฟเฟ่ต์หัวละ 319 บาท แบบไม่จำกัดเวลาในการรับประทาน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนั้น ตนจำได้ว่า ไม่ใช่ลูกค้าประจำและไม่เคยเข้ามาใช้บริการที่ร้านแห่งนี้มาก่อนเลย
หลังเข้ามานั่งรับประทานอาหารกันตั้งแต่เวลา 20.00-21.30 น. ลูกค้าที่เป็นผู้หญิงก็เริ่มโวยวายเรียกพนักงานในร้านมาบอกว่าเจอกระดาษทิชชูอยู่ในถาดคอนโดและในหม้อชาบู ทางพนักงานของร้านก็ตรงเข้าไปขอโทษลูกค้าก่อนเป็นอันดับแรก โดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด
เพราะคิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง จึงต้องการลดอารมณ์ของลูกค้าเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ให้เกิดการปะทะกันน้อยที่สุด และทางร้านยังได้เสนอไปว่าจะทำการเปลี่ยนหม้อชาบูให้ใหม่ แต่ทางกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้บอกว่าไม่เป็นไรไม่เอาแล้ว
หลังจากนั้น อีกประมาณ 20 นาที ลูกค้ากลุ่มนี้ก็มาบ่นกับพนักงานในร้านเรื่องรสชาติปูอัดอีกว่า ให้ลองเอาปูอัดไปชิมดู ก่อนจะพูดว่าไม่กินแล้วกินไม่ลง ไม่อยากกินแล้วเมื่อกี้ก็มีทิชชู นี่ก็ปูอัดอีกไม่กินแล้วให้เก็บเงินเลย
ตนในฐานะผู้จัดการจึงเสนอว่า จะขอเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจให้ลูกค้ากลุ่มนี้ดูด้วย แต่ลูกค้ากลุ่มนี้เขากลับโวยวายเสียงดังมากขึ้น ประกอบกับภายในร้านยังมีลูกค้าโต๊ะอื่นนั่งรับประทานอาหารอยู่
ทางร้านก็ไม่อยากให้ลูกค้าโต๊ะอื่นไม่สบายใจหรือเสียความรู้สึก จึงตัดสินใจลดค่าราคาไปให้ 1 หัว จากเดิมที่ต้องคิดในราคา 319 บาท ทั้ง 3 หัว เหลือเพียง 2 หัวเท่านั้น
ต่อมาหลังจากเกิดเหตุการณ์แล้ว ด้วยความไม่สบายใจ ตนจึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาดู จึงพบว่าลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเสื้อสีแดงเป็นคนใช้ตะเกียบคีบทิชชูลงใส่ในหม้อชาบู ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้พนักงานในครัวซึ่งเป็นผู้หญิงถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
และจากการที่ลูกค้ากลุ่มนี้โวยวายว่าเป็นความผิดของร้าน ทำลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ ในวันนั้น ทยอยเช็กบิลออกไปทีละโต๊ะ ทำให้ทางร้านได้รับความเสียหาย ซึ่งหลังจากทางเจ้าของร้านทราบความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ได้เข้าแจ้งความและกำลังปรึกษากับทนายความเพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งตนไม่ทราบว่า หลังตกเป็นข่าวแล้วทางลูกค้ากลุ่มนี้ได้ติดต่อเข้ามาที่ทางร้านหรือยัง และทางบริษัทจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร ตนทำหน้าที่อยู่หน้าร้านจะทราบแค่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเท่านั้น
ซึ่งตนได้พยายามปกป้องพนักงานด้วยการให้ลูกค้ากลุ่มนี้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมกัน แต่กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ยอม ก่อนจะได้รับส่วนลดแล้วคิดเงินออกไป โดยเจ้าของได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา