“ไก่ วรายุฑ” ตัดใจขายสตูฯ 100 ล้าน! หลังสูญเสียน้องชายคนเดียว จากเส้นเลือดแตกทั้งตัว! 3 ปีไม่มีงาน ด้อยค่าตัวเอง! เหนื่อยแบกรับค่าใช้จ่ายลูกน้องหลายสิบล้าน
ผู้จัดละครชื่อดัง “ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา” เปิดใจที่แรก หลังโพสต์ตัดพ้อ 3 ปีไม่มีงานต้องแบกรับค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านบาท ประกาศขายวราวิลล์ สตูดิโอราคามากกว่า 100 ล้าน พร้อมเผยครั้งแรกสาเหตุน้องชายคนเดียวเสียชีวิต พูดหมดเปลือกผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มีเบนซ์ พรชิตา และเป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เกิดอะไรขึ้นโพสต์ 3 ปีไม่มีงาน? “จริงๆ มากกว่า 3 ปี เพราะ 3 ปีเรื่องสุดท้ายคือละครวาย ก่อนหน้านั้นมีโควิดต่างๆ นานา ก็นานโขอยู่ที่ไม่งาน เราก็ชิลชิลสบายๆ บางทีเบื่อๆ อยากบอกคนบ้างว่า เฮ้ย กูเบื่อแล้วนะ กูไม่มีงาน เสียใจก็เสียใจ แต่ก็เซฟตัวเอง”
หลายคนเป็นห่วงว่ามีภาวะอย่างอื่นด้วยมั้ย? “มีบ้าง มันไม่มีเงินเข้าหลายปีมีแต่เงินออก เรารู้สึกว่าต้องเป็นแบบนี้ไปอีกนานมั้ย ชีวิตฉันต้องใช้เงินเก็บที่เก็บทั้งชีวิตอีกนานหรือเปล่า แต่ลูกน้องเรามีอยู่เยอะ เราก็ต้องเลี้ยงเขา ดูเขา ถ้าจะให้เด็กออก เคยปรึกษาเลขาว่าเจี๊ยบถ้าพี่จะหยุดรายการ ไม่ทำแล้วนะอลหม่าน ไม่ทำแล้วนะบางกอกกอสซิป พี่ก็อยู่ได้แล้ว เจี๊ยบบอกพี่ไก่เขามีลูก มีผัว มีพ่อแม่ต้องเลี้ยง ถ้าหยุดหนึ่งคน ครอบครัวอีก 5-6 คน หลายสิบเลยนะ ไม่ใช่แค่ตรงนั้น งั้นเราทำก็ทำวะ เราต้องแบกบริวารเราด้วย”
ทั้งรายการด้วย ละครด้วย ละครไม่ได้ทำแต่ทีมงานยังอยู่ จ่ายเงินเดือนพนักงาน 30 คน? “ก็จ่ายอยู่ทุกเดือน เราอยากลดเขานะ เห็นบริษัทโน่นนี่ลด เราก็อยากลดบ้าง แต่พอหันไปซ้าย อีนี่ก็อยู่มาสิบกว่าปี อีนี่ก็อยู่กันมาสิบกว่าปี ก็ทำอะไรไม่ได้”
เหมือนอยู่กันเป็นครอบครัว ช่วงไม่มีงานถือว่าเป็นเจ้านายที่ดีซัพพอร์ต? “เฮ้อ แต่มันก็เหนื่อย ช่วงสุดท้ายจริงๆ ไม่ไหวจริงๆ แล้ว เมื่อสองปีที่แล้ว ขอพูดหน่อย ขออนุญาตนะ บางคนพี่ไม่ไหวแล้ว แต่ก็ชดใช้ตามกฎหมายแรงงานทุกอย่าง เราให้เขา 10 กว่าคน ถามว่าเหนื่อยมั้ย เหนื่อย หนักมั้ยหนัก เยอะมั้ยก็เยอะอยู่ แต่ก็ต้องให้ไม่งั้นก็อีกหลายปี เราเก็บไว้ในส่วนที่ไปไม่รอดจริงๆ สงสารจริงๆ ตอนนี้จ้างให้อยู่เฉยๆ หลายคนจริงๆ ตอนงานละครไม่มี เขาไปกวาดบ้าน เช็ดบ้าน ก็โอเค”
เงินเดือนที่ต้องจ่ายแต่ละเดือน ตกค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? “ตอนนั้นหลายล้านอยู่ 30 กว่าคน อาศัยตัวเองทำงานตั้งแต่เด็กๆ เก็บตังค์ไว้ก็พอได้เงินมา เรายังไม่เจ็บก็ยังสามารถช่วยเหลือจุนเจือคนอื่นได้ แต่ใกล้เจ็บเมื่อไหร่ก็ต้องมีระยะผ่อนว่าเอาไว้แค่นี้ที่เราจะดูแลเขาได้อีกหลายปี ตอนนี้คำนวณนะว่าเงินเราเหลือแค่นี้ เด็กที่ไว้แค่นี้ งานมีแค่นี้ เราจะดูแลเขาได้อีกกี่ปี”
ดูแลทุกคน ไม่ใช่แค่นักแสดงนำ กับข้าวนักแสดงได้กินดีหมด พี่ไก่เท่าเทียมกันหมด ตอนเย็นหลังเลิกพระอาทิตย์ตก ต้องมีน้ำเก๊กฮวยมาเสิร์ฟ แล้วเสิร์ฟทุกคนยันทีมงาน ช่างกล้องช่างไฟถ้ารู้ว่าจะได้ทำละครพี่ไก่จะแย่งกันทำ ทุกคนอยากมา มันมีความสุข แต่ถึงเวลาอย่างที่บอก ต้องตัดใจ ละครตอนนี้ไม่มี? “ไม่มี แต่เรากระหายอยากทำ เราเกิดจากละครก็อยากตายไปกับละคร เราอยากให้เห็นว่า อย่างน้อยฉันมีคุณค่าของตัวเอง ยังมีสมองที่จะผลิตให้คนอื่นดูได้ เราสามารถเอาเด็กสมัยใหม่มาร่วมคิดกับเรา และทำต่อไปได้”
ตอนนี้มีรายการอลหม่านจานเด็ด และบางกอกกอสซิป ทำแต่เข้าเนื้อ? “เข้าเนื้อค่ะ ก่อนมาทำที่บ้าน ตอนนี้มีสตูดิโออยู่ในบ้าน โชคดีตอนนั้นมีสตางค์ และคิดทำสตูดิโอขึ้นมาในบ้านเพื่อถ่ายรายการ แต่ถ้าไม่คิดอย่างนี้ไว้ก่อน เราสวัสดีแน่ เพราะเช่าสตูดิโอเท่าไหร่ ค่าเก็บฉาก สร้างฉาก ค่าโฟ แต่ตอนนี้เรามีของเราเอง เราไม่มีเงินเข้ามา ไม่มีเงินเข้ามาให้เรา เราก็เอาของที่เรามีเอาออกไปจุนเจือตรงนั้น
สองรายการถามว่าอยู่ได้มั้ย เกือบอยู่ได้และเกือบอยู่ไม่ได้ในบางเดือน ต้องเอาเดือนนี้มาปะเดือนนี้ เพราะโฆษณามันไปที่อื่นกันหมด มันแชร์ไปเยอะ คนทำทีวีและเป็นเจ้าของรายการเอง ขอบอกเลยนะคะว่า น้ำตาตกใน ต้องทำ ต้องเลี้ยงตัวเองและเลี้ยงคนอื่น ถึงไม่ได้เงินก็หน้าดิฉัน ฉิบหายไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ (หัวเราะ)”
ถือเป็นวิกฤตที่หนักสุดในชีวิต? “หนักค่ะ ตอนนี้สงสารตัวเองด้วย และสงสารนักแสดงไม่ว่าใหม่หรือเก่า อย่างน้อยละครทุกช่องก็ผลิตน้อยลง ใช้ดาราน้อยลง ใช้ทีมงานน้อยลง ช่างผมช่างหน้าช่างเสื้อผ้าไฟกล้องอะไรก็น้อยลง ฉะนั้นเป็นวิกฤต ทุกคนต้องอยู่ให้รอดให้ได้”
วงการบันเทิงมีอะไรใหม่ๆ มาให้ตลอด แต่เบื้องหลังอยู่ยากกว่ายุคก่อนเยอะมาก? “มากเลย เพราะเดี๋ยวนี้วิวัฒนาการมันสมัยใหม่ขึ้น แพลตฟอร์มมันเยอะขึ้น คนคิดอะไรที่มันต่างจากทีวีได้ มันสามารถออกอะไรก็ได้ เล่นอะไรก็ได้ที่อยากเสนอ คนก็ไปดูทางนั้น ทีวีมีขอบเขตจำกัดในการออกอากาศ มีเซ็นเซอร์ ความสนุกมันลดน้อยลงกับการเราไปเปิดที่อื่น ตบกันเลย ด่ากันเลย กระชากหัวได้ทันที มันสนุกกว่า แต่ในทีวีมันลดลงนิดนึงแค่นั้นเอง”
สิ่งที่กลัวที่สุดไม่ใช่เงินทอง แต่กลัวตัวเองจะไม่มีคุณค่าในตัวเอง? “ใช่ ตัวเองรู้สึกว่าวันนึงเดินไปไหนแล้ว คนไม่ทัก ไม่เรียกไม่รู้จัก ไม่พูดถึงละครหรือรายการเรา อยู่ได้มั้ยล่ะ รู้สึกอายตัวเองนะว่าเฮ้ย หายไปแล้วเหรอ ไม่มีตัวตนเหรอ ทำไมเราด้อยค่าแบบนี้ คนจำงานเราไม่ได้แล้วเหรอ ไม่ได้ ฉันต้องดิ้นรน ถึงตอนนี้ไม่มีงานก็ต้องดิ้นรน”
เงินไม่ใช่เป้าหมายหลัก เป้าหมายหลักคืออยากให้ตัวเราเป็นผู้เล่นทรงคุณค่าอยู่ในอาชีพ? “อยากให้คนเห็น”
เชื่อว่าคนไม่มีทางลืมงานพี่ไก่ ต่อให้ผ่านไปกี่ปี แต่ยุคนี้คนดูละครเปลี่ยนไป? “ใช่ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด”
กลัวคนจำเราไม่ได้ กลัวเราด้อยค่าในตัวเอง กลัวไม่ภูมิใจในความเป็นเรา จัดการกับความรู้สึกตรงนี้ยังไง? “เราต้องไม่นอยด์ ต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเอง ต้องขอบคุณแฟนละคร แฟนรายการ แฟนๆ ไก่ที่ให้กำลังใจมาตลอด ตอนโพสต์ไปไม่ว่าจะนักแสดง หรือแฟนๆ หรือใครก็ตามเดินไปก็บอกว่า คุณไก่อย่าเสียใจนะ ฉันให้กำลังใจนะ ทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย คนยังจำฉันได้อยู่ สิ่งนี้แหละ ที่ทำให้เราต้องทำอะไรขึ้นมาอีกไม่ว่าอะไรก็ตาม ต้องหาโอกาสจากตรงนั้นให้ได้ ตอนนี้กำลังหาโอกาสให้คนรู้ว่าฉันยังอยู่นะ”
ปกติไม่ค่อยเห็นพี่ไก่ท้อ? “ปกติใครเครียดก็ให้มาที่บ้าน ไม่นอยด์ ไม่รู้สึกว่าต้องสลด ซึมเศร้า เพื่อ! ต้องหาความสุขให้ตัวเองเท่าที่เรามีและให้คนอื่นได้ตลอดเวลา”
(โฟนอิน “จอย ศิริลักษณ์)” นางเอกคู่บุญพี่ไก่ เล่นละครพี่ไก่เยอะมาก? จอย : “เมื่อก่อนไม่เจอกันนานมากเลยค่ะ แต่ช่วงหลังได้เจอพี่ไก่บ่อยขึ้น”
ไก่ : “เขาแวะมาหาที่บ้าน เอาขนมมาให้กิน”
เล่นละครพี่ไก่เยอะมาก เล่นไปกี่ล้านเรื่อง? จอย : “กี่ล้านเรื่องไม่ทราบค่ะ แต่เวลาเล่นเนี่ย ได้ดาวล้านดวงมาเลยค่ะ (หัวเราะ)”
ไก่ : “นางเก่ง เล่นได้สารพัด รักเดียวของเจนจิรา ไปคอซองอยู่พม่าเลยค่ะ ปี 2539 มีเสน่ห์นางงิ้ว เรือนรักเรือนทาส สาวน้อยคาเฟ่ ราชินีหมอลำ ดังทุกเรื่อง เธอทำได้ทุกอย่าง ร้องอะไรก็ได้เสน่ห์นางงิ้วเธอรำและร้องเป็นภาษาไทย มีฝีมือ”
เป็นนักแสดงแทบคนเดียวทำได้ทุกอย่าง เล่นได้ทุกบท เมื่อก่อนนางเอกเล่นร้ายไม่ค่อยได้ แต่จอยเล่นได้หมดเลย มีอะไรอยากพูดกับพี่ไก่? จอย : “อยากบอกว่ารักและคิดถึงพี่ไก่เสมอ ที่พูดถึงผลงานเรื่องต่างๆ ล้วนแล้วแต่พี่ไก่เชื่อมั่นในตัวเรา มองเห็นอะไรในตัวเรา อะไรไม่มีพี่ก็เติมให้ หลายบทเราก็ไม่คิดว่าจะเล่นได้ พี่ไก่เป็นคนทำละครประวัติศาสตร์มาก จะเปลี่ยนปรากฏการณ์หน้าละครไทยจริงๆ ตั้งแต่เจนจิรา คนก็จดจำทุกวันนี้ ขนาดจอยไม่ได้มีผลงานช่วงใหญ่หลายปีมากแต่ทุกวันนี้คนยังทักว่าเจนจิราจนถึงวันนี้ ในคอมเมนต์ก็ยังเป็นเจนจิรา
มันเป็นเพราะพี่ไก่สร้างตัวเจนจิราขึ้นมาแล้วมันตราตรึงอยู่ในหัวใจของคนจริงๆ สาวน้อยคาเฟ่ ราชินีหมอลำอีก บางทีคนเจอจอย ไม่รู้จะทักเรื่องไหนก่อน เพราะภาพที่พี่ไก่สร้างไว้อยู่ในนี้ของทุกคนจริงๆ พูดแล้วขนลุก ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ที่ดี เป็นความสำเร็จ เป็นสิ่งที่จอยรู้สึกรักและผูกพันมากๆ ขอบพระคุณพี่ไก่มากๆ เลยนะคะ อยากให้พี่ไก่รู้
ล่าสุดก็เห็นพี่ไก่โพสต์เหมือนกัน เพราะเราติดตามในไอจี เรารู้ว่าพี่ไก่มีความสุขที่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะ อยากเห็นผลงานพี่ไก่ในอีกหลายๆ ด้าน ในเชิงศิลปะ จะเป็นละครก็ได้หรือแม้แต่ร้านอาหารที่พี่ไก่ทำอยู่ จอยเห็นนะว่ามันประณีตมากๆ เป็นอีกมิตินึงที่คนจะได้เสพงานศิลป์และเข้าถึงตัวพี่ไก่ได้ง่ายขึ้นกว่าตอนทำละครด้วย ยังไงก็อยากไปทานข้าวที่ร้านพี่ไก่อีกนะคะ”
เล่นบทนางเอกหลายเรื่อง พี่ไก่เห็นความสามารถอะไรในตัวคุณจอย ถึงให้ละครคุณจอยเยอะขนาดนี้? จอย : “อุ้ย เป็นคำถามที่อยากถามจริงๆ เหมือนกัน”
ไก่ : “จอยเป็นคนมีความสามารถมากๆ สิ่งที่ยังอยากทำอยากให้จอยเล่นอีก แต่ยังไม่มีโอกาสได้เล่น ความสามารถจอยยังมี จอยเล่นงิ้วได้ ร้องงิ้วได้ ร้องหมอลำ ลูกทุ่งได้ แต่เพลงไทยสากลอยากทำให้จอยร้อง จอยต้องร้องเพราะมากๆ เขาทำอะไรก็ได้เพลงแจ่ว แอ่วก็ทำมาหมดแล้วได้ทุกอย่างเลย ส่งอะไรให้ก็ทำได้หมด”
จอย : “ทำเมื่อไหร่ให้หนูเล่นด้วย”
หลายคนเข้าใจว่างอนกัน? จอย : “ไม่เคยงอน ไม่เคย”
ไก่ : “ไม่เคยงอน ไม่เคยเกลียดกัน รักกันตลอดเวลา คิดถึงกันเสมอ”
จอย : “ใช่ค่ะ แปลกนะ จอยอาจไม่ได้คุยกับพี่ไก่เยอะมากๆ แต่เรารู้สึกว่าเหมือนมองตาก็เข้าใจ รู้ว่าพี่รักและเอ็นดู”
ไก่ : “ใช่ เราเจอกันก็ต่อติดกันทุกที เราเจอกันนานแล้วตั้งแค่คอซอง”
จอย : “ขอบคุณที่รักและเอ็นดูหนู”
ไก่ : “ไม่เจอกันนานแล้ว”
อยากบอกอะไรพี่ไก่? จอย : “เขินทำไมเนี่ย (หัวเราะ) ก็รักพี่ค่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรมากมายไปกว่านี้ รักและเป็นห่วงเสมอค่ะ”
ไก่ : “เก่งที่สุด รักกันที่สุด เจอเมื่อไหร่ก็ต่อติดกันเมื่อนั้น ความรักที่เราเริ่มกันตั้งแต่เด็กๆ ตอนนั้นเขาก็เด็ก เราก็เด็ก เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ความรักมันก็มากขึ้น และคิดถึงกันตลอดเวลา ดีใจที่โฟนอินเข้ามา ดีใจจังเลย (หัวเราะ) เรียกว่านางเอกลูกรักได้ เพราะเล่นกี่เรื่องก็ดังทุกเรื่อง”
จอย : “ดังเพราะพี่ไก่นั่นแหละ (หัวเราะ)”
ล่าสุดได้ยินมาว่าแพลนจะขายสตูดิโอที่ชื่อว่า วราวิลล์? ไก่ : “ใช่ค่ะ เพราะที่ทำเอาไว้ให้ตอนนั้นทำเป็นสตูดิโอถ่ายละคร แล้วสร้างเป็นบ้านเป็นอะไรไว้ให้ เพราะเรามีน้องชาย คิดว่ายังไงเราก็ต้องตายก่อนมัน มันก็ต้องดูแลไป แต่เขามาไปก่อนเรา เราก็ถามลูกเขาว่า เอามั้ยลูก ดูแลต่อ เขาบอกว่าไม่เอา ก็ทำยังไงล่ะ ก็ต้องจำหน่ายขายออกไป ทั้งที่รักนะ เราทำด้วยความรัก มันสวย ใครจะซื้อเราก็ยกให้หมดเลย ไม่เก็บ”
ใจหายมั้ย? ไก่ : “แว้บแรกค่ะ ตอนตัดสินใจจะขาย แว้บเลย แต่พอตัดใจได้แล้วก็ตัดเลย ขายเลย”
ของทุกชิ้นเป็นของรักหมดเลย ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย? ไก่ : “วิวสวยมาก มองไปโปร่งโล่งหมดเลย จริงๆ เป็นร้านอาหาร เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงสองทุ่ม ทำอาหารเอง หน้าร้อนจะทำข่าวแช่ตำราคุณแม่ กำลังเตรียมตัว ลองโน่นนี่นั่นดู”
วราวิลล์ขายได้หลายร้อยล้านแน่นอน พี่ไก่จะเอาไปลงทุนทำซีรีส์วาย? ไก่ : “ใช่ ถ้าได้เงินมา ลูกน้องเรายังอยู่ ไฟเรายังมี เราก็ต้องหาทำอะไรที่สนุกๆ เพื่อตัวเราเองและเพื่อตัวลูกน้องเราด้วย คิดว่าจะทำซีรีส์วาย ไม่ต้องมีใครจ้าง เราก็ไปซื้อเวลาเขาออกโฆษณาช่องไหนก็ได้ อยากทำยังมีความรู้สึกว่ายังมีอะไรในชีวิตที่คนไม่เห็น ยังมีอีกเยอะ ต้องทำให้เขาเห็น ส่วนราคาก็ต่อรองกันได้ ติดต่อมาได้เลย ช่วงเชฟเทเบิ้ล จะเป็นอาหารในเรื่องปริศนากับสี่แผ่นดิน มีละครปริศนา สี่แผ่นดินให้ดู แล้วเสิร์ฟอาหารในยุคนั้น แม่พลอยเข้าในวังทำอะไรให้ที่บ้านกินบ้าง มีสตอรี่นิดนึง มีดนตรีสดด้วย”
น้องชายไม่อยู่แล้ว เสียชีวิตกะทันหัน? ไก่ : “ตกใจนะคะ เขาอยู่รพ.ได้สองวัน เราไปเยี่ยมเขาก็คุยกันปกติเป็นอะไร หมอบอกว่าเกล็ดเลือดต่ำ อีกสองวันกลับบ้านได้แล้ว ไปดูร้านเหอะ อยู่ได้สบาย นอนเล่นเกมส์สบายอยู่เลยค่ะ พูดคุยปกติเลย พอเช้าวันรุ่งขึ้น โทรศัพท์เข้ามาตีห้าครึ่ง เอ๊ะ ทำไมโทรศัพท์มาแต่เช้า ใครวะ เรารับ เพื่อนเขาโทรมาบอกว่า พี่ไก่ เป็ดเข้าไอซียู พี่ไก่ทำใจนะหนัก สัก 5 นาทีก็วางไป แล้วโทรมาว่าตอนนี้ทำใจนะพี่ไก่เพราะว่าสโตรก ไม่ใช่สโตรกที่สมอง สโตรกในร่างกาย เส้นเลือดแตก อยู่รพ.แล้ว เครื่องมือรพ.หรือที่อื่นที่ใหญ่ๆ ก็ไม่มี เขาไม่สามารถเย็บเส้นเลือดทั้งตัวได้ เขาแตกทั้งตัว 10 นาทีเอง ไม่ใช่ไข้เลือดออกเลยค่ะ”
ก่อนไปนอนรพ.? ไก่ : “ไม่มีอะไรเลย เขาเข้ารพ.เพราะปวดหัวธรรมดา เป็นไข้ปวดหัวตัวร้อนขึ้นมาแล้วไปนอนรพ. ไม่ได้เป็นลม ไม่มีอาการใดๆ ที่รุนแรง ไปตรวจเกล็ดเลือดต่ำแล้วหมอหาสาเหตุไม่ได้ว่าเป็นอะไรเกล็ดเลือดต่ำ ตอนแรกคิดว่าเป็นไข้เลือดออก แต่ก็ไม่ใช่ แค่ 2 วันเท่านั้นเอง สองวันยังปกติ วันที่ 3 สวัสดีเลย พี่ตกใจ ช็อก พูดไม่ออกเลย กำลังพูดว่าเดี๋ยวๆ พี่กำลังจะไปรพ. ก็บอกว่าไม่ต้องมาแล้วค่ะ พี่ไก่จัดการทางนี้แล้วกัน เดี๋ยวทางนั้นรพ.จัดการให้ เส้นเลือดใหญ่เส้นเลือดในตัวมันแตก แล้วแตกไปหมดพร้อมๆ กัน หมอเป็นเพื่อนเขาด้วยนะ นางพยาบาลก็เพื่อนเขา”
เป็นน้องชายคนเดียว ตอนเสียร้องไห้หนักขนาดไหน? ไก่ : “คนคงไม่เห็น เพราะไม่ร้องให้ใครเห็นอยู่แล้ว แต่ตอนกลับบ้าน ขับรถเลยบ้านตัวเอง ลอยไป แล้วก็ เฮ้ย มาอยู่ตรงนี้ได้ไง มันเหมือนฝัน เร็วมาก”
พอคราวนี้น้องชายไม่อยู่ก็ไปไม่ถูก เพราะลูกเขาก็ไม่เอา? ไก่ : “ก็เลยขายดีกว่า เอาเงินมาทำสิ่งที่เรารักดีกว่า”
ซุกเด็กเลี้ยงเด็กไว้? ไก่ : “(หัวเราะ) ขอบอกเลยนะคะ อยากเลี้ยงแต่ไม่มีใครให้เลี้ยง ไม่มี๊ เขาไม่ให้เราเลี้ยง ไม่มีเลย ก็ไปเติมเมืองนอกสิเนอะ ไปไกลๆ หน่อย”
บาร์โฮสไปมั้ย? ไก่ : “อยากไป อยากรู้เป็นยังไง แต่ไม่มีใครพาไปสักคน อยากรู้ว่าเขาเป็นยังไงกันบ้าง”
ไม่มีหนุ่มๆ เสนอตัวอยากดูแล? ไก่ : “ไม่มีค่ะ มีแต่พี่เสนออยากดูแลเขา แต่เขาไม่สนอง ส่วนใหญ่มาเป็นน้อง”
ไม่โสดหรือเปล่า? ไก่ : “โสด ไม่มี บอกตรงๆ เคยมีอยู่คนนึง แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว โสดไม่สนิทค่ะ สามารถคุยได้ค่ะ ถึงมีก็ไม่รู้ เขาอยู่แดนไกล เราก็คุยได้ ยินดีเลย หัวใจยังสีชมพูอยู่นะคะ แต่ไม่มีใครมาเติมให้เรา”
ตอนนี้มีแพลนทำอะไรบ้าง? ไก่ : “มีเยอะแยะเลยค่ะ ละครก็อยากทำอยู่ วันก่อนมีคนถามเราว่าทำไมเราไม่ทำครีม เราหน้าดีเพราะอะไร เราใช้ครีมของเราเองอยู่ เดี๋ยวจะไปค้นตำราตรงนั้น เรามีความรู้จากการไปญี่ปุ่นเกาหลี เดี๋ยวเอาทุกอย่างมารวมกันแล้วอาจทำขึ้นมาเพื่อยังชีพของตัวเองและให้แฟนๆ ละครได้ใช้ของที่เราใช้อยู่ แต่ต้องขอพิจารณานิดนึงว่าทำได้หรือเปล่า ไม่ดีก็ไม่ใช่วรายุฑเนอะ เอาของเฮงซวยมาขายก็โดนด่า ไม่คุ้ม ต้องลองดูก่อน ส่วนงานบันเทิงก็ไม่ทิ้ง อยากเสนองานละครตัวเองอีก”