เพจดังขอนักการเมืองหญิงหมอบเถอะ ถ้าพยายามแถ ไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ทำมันเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ พร้อมปล่อยอีก คลิปเสียงยาว 1 ชม.
จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์คลิปหนุ่มรายหนึ่งจับได้ว่า ภรรยาของตัวเอง ซึ่งเป็นนักการเมืองพรรคดัง มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ พระมหาหนุ่ม อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของฝ่ายชายด้วย แต่ทั้งคู่ปฏิเสธบอกว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน
ต่อมาคนสนิทของทั้งคู่เปิดใจว่า รู้จักกับทั้งคู่ตั้งแต่ก่อนที่จะหมั้นกันแล้ว ปกติแล้วฝ่ายชายเป็นคนกรุงเทพฯ มีหน้ามีตาในสังคม ส่วนฝ่ายหญิงมีหน้ามีตาอยู่ในจังหวัดภาคเหนือ ทั้งคู่เจอกันภายในงานพิธีแห่งหนึ่งที่วัด จากนั้นจึงคุยกันเรื่อยมา และได้หมั้นกันเมื่อปี 2565 ตนได้ร่วมงานหมั้นนั้นด้วย
ก่อนที่ฝ่ายชายจะจับได้ได้ว่า ภรรยามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระมหารูปนี้ คือก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงรู้จักกับพระรูปนี้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ก็ห่างหายกันไปประมาณ 2-3 ปี กระทั่งมีหมอดูคนสนิทของผู้หญิงทักมาว่าให้ไปตามพระรูปนี้กลับมา ก็เลยทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาติดต่อกันอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังพบว่า บางครั้งเมื่อไปทำบุญกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไปค้างคืนที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง จากนั้นมีคนเห็นว่าฝ่ายหญิงยืนกอดกับพระรูปนี้อยู่ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร กระทั่งวันรุ่งขึ้นที่ทุกคนออกไปซื้อของกันหมด เหลือเพียงแค่พระรูปนี้กับฝ่ายหญิงที่อยู่กันที่รี
สอร์ต เมื่อกลับมาเห็นว่าผู้หญิงกับพระอยู่ด้วยกันสองคนในห้อง แล้วล็อกประตูด้วย เมื่อฝ่ายหญิงเห็นว่าทุกคนกลับมาหมดแล้ว ก็อ้างว่า “สวดมนต์อยู่ ไม่อยากให้ใครรบกวน”
ส่วนเหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มี.ค. ฝ่ายชายได้รับข้อมูลจากคนสนิทว่า พระรูปนี้ได้มานอนค้างที่บ้าน โดยนอนอยู่ในห้องนอนของฝ่ายชายและภรรยา จึงรีบขับรถมาที่บ้านในจ.สุโขทัย จากนั้นเปิดประตูห้องนอนไปพบว่าพระรูปนี้นอนเปลือยกายอยู่บนเตียงกับภรรยาของตัวเอง และในห้องก็พบ สบง จีวรและสายรัดประคด ถอดอยู่ปลายเตียงด้วย ทำให้ฝ่ายชายรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ ฝ่ายหญิงก็พยายามอธิบายกับสามีว่า “น้ำห้องพระไม่ไหล เลยมาอาบน้ำห้องของเขา” แต่ภาพที่เห็นคือทั้งคู่นอนเปลือยกายกอดกันอยู่
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 11 เม.ย.67 เพจ อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ข้อความลงเพจอีกว่า
“ถ้าพยายามแถ ไม่ยอมรับว่าสิ่งที่ทำมันเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ คลิปเสียงความยาวกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมถูกปล่อย หมอบเถอะ..!”