หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเผยถึงแหล่งที่มาเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท วงเงิน 5 แสนล้านบาท สามารถบริหารจัดการผ่านกระบวนการงบ
ประมาณได้ทั้งหมด โดยเป็นการจัดการงบประมาณในปี 67 และปี 68 ควบคู่กันไป ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ส่วน
1. เงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท
2. การดำเนินโครงการผ่านหน่วยงานของรัฐ จำนวน 172,300 ล้านบาท โดยเป็นเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งจะดูแลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ 17 ล้านคน ตามมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 2568
3. การบริหารจัดการเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการนั้น กลับถูกหลายฝ่ายออกมาตั้งคำถามอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งจะดูแลเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์
17 ล้านคน ตามมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 2568 ถือเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะ ธ.ก.ส. ยังคงต้องทำโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีกหลายโครงการ และการกู้เงินในครั้งนี้ รัฐบาลจะมีแผนตั้งงบประมาณเพื่อคืน ธ.ก.ส. เมื่อไหร่
ล่าสุด ทางธนาคารออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยสรุปได้ว่า ธ.ก.ส.เป็นธนาคารของรัฐ มีวัตถุประงค์ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร และโครงการต่าง ๆ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ก็เข้าไปสนับสนุน
ส่วนของโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ตามที่ได้แถลงไปนั้น เป็นอีกหนึ่งโครงการของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องในมิติของเกษตรกรผู้รับภายใต้กรอบกฎหมายและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม