จากกรณี ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของนักเรียน ว่ามีความต้องการให้ปรับปรุงเรื่องใดบ้างภายในโรงเรียน ซึ่งผลสำรวจส่วนใหญ่พบว่า นอกจากนักเรียนอยากได้เรียนในห้องเรียนที่ดี มีบรรยากาศที่สร้างสรรค์กับครูผู้สอนแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้เรียนต้องการมากที่สุดคือ ให้มีการปรับปรุงเรื่องของห้องน้ำ
ดังนั้น สพฐ.จึงรับเสียงสะท้อนเหล่านี้ของนักเรียนมาดำเนินการ พร้อมสำรวจสภาพห้องน้ำของโรงเรียนแต่ละแห่ง โดยเป็นนโยบายสุขาดีมีความสุข ซึ่ง สพฐ.จะจัดสรรงบประมาณปรับปรุงห้องน้ำโรงเรียนให้จำนวน 100 ล้านบาท ในกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กประมาณ 9,700 แห่ง ที่มีนักเรียน 80 คนลงมาก่อน
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า จากการส่งคณะทำงานลงไปสำรวจในโรงเรียนกลุ่มดังกล่าวแล้วพบว่า สภาพห้องน้ำชำรุดทรุดโทรม กลอนประตูชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ โดยงบประมาณที่จัดสรรให้ จะให้โรงเรียนนำไปปรับปรุงห้องน้ำ เช่น ทาสีห้องน้ำ เปลี่ยนสุขภัณฑ์ รื้อระบบประปาใหม่ และที่สำคัญ จะไม่มีการแบ่งแยกห้องน้ำครู หรือห้องน้ำนักเรียน
โดยจากนี้ทุกอย่างต้องเท่าเทียม นักเรียนและครูสามารถใช้ห้องน้ำร่วมกันได้ โดยจะแบ่งแยกแค่เฉพาะห้องน้ำชายและหญิงเท่านั้น ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ที่เป็นโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ จะให้มีการสำรวจสภาพห้องน้ำ และจัดหางบฯ อื่นๆ ไปให้ปรับปรุงด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้น สพฐ.จะปรับปรุงระบบไฟฟ้าโรงเรียนด้วย เนื่องจากมีการสำรวจพบว่า การเกิดไฟไหม้ในสถานศึกษาส่วนใหญ่ มาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เพราะระบบไฟของโรงเรียนมีการใช้งานมาไม่ต่ำกว่า 30 ปี ถือว่าหมดอายุการใช้งานแล้ว และจำเป็นต้องรื้อทำระบบไฟฟ้าใหม่ เพื่อความปลอดภัยของเด็กและบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนจะต้องดำเนินการการปรับปรุงทุกอย่างให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 เดือน พ.ค. 2567 นี้
