September 19, 2024

โควิดตัวใหม่ กลายพันธุ์แปลก หนีภูมิ แพร่เร็ว เผยจังหวัดที่ติดเชื้อแล้ว 2 ราย

 

 

 

 

 

 

สำหรับสถานการณ์โควิดในไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น หลังผ่านเทศกาลสงกรานต์ จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าช่วงวันที่ 15-21 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาลสูงถึง 1,004 ราย ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก จากการระบาดของโควิด สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน JN.1 มีความ

สามารถในการแพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว แม้อาการไม่รุนแรง แต่การแพร่กระจายได้ง่าย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในระลอกนี้ และการล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง เว้นระยะห่างทางสังคม และสวมหน้ากากอนามัย เป็นวิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด

ล่าสุดศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ออกมาเตือนให้ระวังโควิด สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน KP.3 ตัวใหม่จะมาแทนที่สายพันธุ์ย่อยโอมิครอน JN.1 ในอนาคตอันใกล้ จากการสุ่มถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมของไวรัส

โควิด จากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกและแชร์ขึ้นไว้บนฐานข้อมูลโควิดโลก จีเสส (GISAID) พบโอมิครอนสายพันธุ์ใหม่ KP.3 ทั่วโลก จำนวน 295 ราย และในไทย 2 ราย จาก จ.พระนครศรีอยุธยา

โอมิครอน KP.3 ตัวใหม่นี้ สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดีทีเดียว ไม่ว่ามีการฉีควัคซีนโควิดไปแล้ว หรือคนที่เคยติดเชื้อโอมิครอน JN.1 ก็ไม่สามารถป้องกันโอมิครอน KP.3 ได้เลย จากการนำแอนติบอดีของคนติด

เชื้อ JN.1 มาทดสอบ ก็ปรากฏว่าไม่สามารถยับยั้งเจ้าตัวนี้ได้ดีพอ ก็เลยเป็นข้อมูลในการเร่งพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ ให้สอดรับกับไวรัสที่กลายพันธุ์ อาจต้องพัฒนาวัคซีนทุกๆ 6 เดือน

โดยโอมิครอน KP.3 ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน และไม่มีการกลายพันธุ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน จึงอยากให้ระมัดระวังในการป้องกันตัวเองและหวังว่าจะไม่รุนแรง หากรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ก็จะตีวงในการควบคุมไม่ให้แพร่ระบาด โดยกรณีผู้ติดเชื้อ 2 รายใน

จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นแค่การสุ่มตรวจเท่านั้น คาดว่าตัวเลขที่แท้จริงของผู้ติดเชื้อโอมิครอน KP.3 ในไทย อาจมากกว่า 5 เท่า หรือ 10 เท่า อาจเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดแทนโอมิครอน JN.1 และหากไม่จำเป็นไม่ควรเข้ามาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง

 

 

 

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *