นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวน ต่อเนื่องจาก
สถานการณ์ด้านสงครามและเศรษฐกิจ ประกอบกับ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงชดเชยเงินในส่วนของน้ำมันดีเซลอยู่ เพื่อให้สะท้อนราคาน้ำมันที่เหมาะสม และรักษาสภาพคล่อง ให้สามารถบริหารจัดการ
ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตทั้งด้านการเงินและสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง จึงตรึงอัตรา เงินชดเชยประเภทน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ไว้ที่ 1.40 บาทต่อลิตร เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประเภท
น้ำมันดีเซลประมาณวันละ 96.29 ล้านบาท การตรึงอัตราเงินกองทุนน้ำมัน ประเภทดีเซลในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกประเภทน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาทต่อลิตร เป็น 32.94 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. 67 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 ที่มีมาตรการ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคา น้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.-31 ก.ค. 67 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเมษายน ที่
ผ่านมา และการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 67 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 67 เป็นต้นไป
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 26 พ.ค. 67 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,690 ล้านบาท
