เมียแฉเอง ผัวเป็นพนักงานขับรถไฟ เล่นชู้กับหัวหน้าสาวตอนทำงาน ไม่ห่วงชีวิตผู้โดยสาร ร้องเรียน 2 ครั้งแต่เรื่องเงียบ
เว็บไซต์ ETtoday และ Next Apple ของไต้หวัน รายงานเรื่องราวสุดฉาวของการรถไฟไต้หวัน ภรรยาคนขับรถไฟรายหนึ่งออกมาเปิดเผยว่า สามีของเธอมีสัมพันธ์สวาทกับเพื่อนร่วมงานหญิงคนหนึ่ง ในช่วงเวลาทำงานบนรถไฟ ที่แย่ไปกว่านั้นคือเธอได้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการจราจรไปถึง 2 ครั้ง แต่ต้นสังกัดกลับไม่มีการตอบสนองใดๆ
ผู้ถูกกล่าวหาคือ นายเซียว (นามสมมติ) พนักงานขับรถไฟอายุ 30 ปี ทำงานให้กับการรถไฟไต้หวันมาเป็นเวลา 6 ปี และแต่งงานกับ นางหลิน (นามสมมติ) มาเป็นเวลา 5 ปี เมื่อพวกเขาให้กำเนิดลูกคนแรก นายเซียวถูกจับได้ว่ามีชู้ ตอนนั้นเขาสัญญาว่าจะกลับตัว
และขอโอกาสจากภรรยา แต่ไม่กี่ปีต่อมาเขาก็กลับคืนสู่วิถีเดิมๆ และได้คบหากับเพื่อนร่วมงานหญิง นางสาวหวัง (นามสมมติ) อายุ 31 ปี เดิมเป็นรองหัวหน้าสถานีแห่งหนึ่งทางตะวันออกและได้ออกเดทกับสามีเธอ ต่อมาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าผู้ควบคุมการเดินรถไฟ
นางหลิน ชี้ให้เห็นว่า สามีช่างไร้ยางอายหลังจากนอกใจเป็นครั้งที่สอง ยังกล้าโพสต์รูปถ่ายหวานๆ ของเขาและหัวหน้าสาว และกดดันให้เธอเซ็นใบหย่า เธอแอบเช็กโทรศัพท์ของเขา และพบกับภาพอนาจารของฝ่ายหญิง ที่สวมชุดเครื่องแบบการรถไฟไต้หวัน มีตรา “รองหัวหน้าสถานี” ถ่ายภาพเซลฟี่เปลือยท่อนล่างในห้องรับรองของสถานี รวมถึงคลิปมีเพศสัมพันธ์กันของทั้งคู่
นางหลินค้นพบความลับที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้น มันเป็นเสียงบันทึกของสามีกับชู้รัก พูดติดตลกเกี่ยวกับการมีเซ็กซ์ขณะขับรถไฟ บางตอนเป็นเสียงที่เขาบอกให้เธอ “กิน” ตรงนั้นของเขา แล้วยังถามด้วยว่า อร่อยมั้ย?
นางหลิน เผยว่า สามีมีเพศสัมพันธ์กับเมียน้อยหลายครั้งในขณะขับรถไฟ เขาไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเลย เธอรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังการรถไฟไต้หวัน 2 ครั้ง แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานที่ปกปิดและไม่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการขับขี่อย่างจริงจัง
ทนายความของสำนักงานกฎหมายเซินเจิ้น ชี้ให้เห็นว่าคนขับรถไฟที่มีเพศสัมพันธ์ขณะขับรถไฟ อาจถือว่าก่อให้เกิดอันตรายต่อการจราจรบนรถไฟ เพราะมันส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของยานพาหนะที่พวกเขาขับขี่ และจะถูกลงโทษฐานฝ่าฝืน ก่ออาชญากรรมอันเป็นอันตรายต่อสาธารณะ
ในที่สุดการรถไฟไต้หวันก็ได้มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า โดยแจ้งว่าได้ปลดเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายออกจากตำแหน่งแล้ว และจะมีการแถลงข่าวชี้แจงต่อไป