อดีตมือกราฟฟิกเว็บพนัน เผยที่มา “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เอาข้อมูลส่วนตัวของเหยื่อมาจากไหน มีครบยันไลน์ไอดี ถูกขายไปกว่าล้านรายชื่อ
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ณ อาคารกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ชั้น 3 (เมืองทองธานี) มีการแถลงข่าว กรณีตำรวจไซเบอร์บุกค้นแหล่งขายข้อมูลส่วนบุคคลพบข้อมูลนักพนันออนไลน์ถูกขายว่อนนับล้านรายชื่อ
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดกวาดล้างจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง กก.3 บก.สอท.4 ได้พบว่ามีการโพสต์ขายข้อมูลส่วนบุคคลในกลุ่ม Facebook ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ โดยโพสต์ประกาศขาย ข้อมูลทั้งสายดำและสายขาว จำนวน 200,000 รายชื่อ ในราคา 3,000 บาท
โดยข้อมูลที่ถูกนำมาขายนั้น ประกอบไปด้วย ข้อมูล ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคาร และ ไลน์ไอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนพบความเชื่อมโยง และสามารถขออำนาจศาลออกหมายค้นผู้เกี่ยวข้อง ผลการตรวจค้น สามารถตรวจยึดคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย
จากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยให้การว่า เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตนเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กราฟฟิกให้แก่เว็บพนันออนไลน์ทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้รับค่าตอบแทนประมาณ 15,000 – 18,000 บาท ต่อเดือน โดยทำหน้าที่ตัดต่อรูปภาพที่ใช้สำหรับทำการโปรโมตเว็บพนันออนไลน์
ส่วนข้อมูลบุคคลที่ตนได้มานั้น เป็นฐานข้อมูลของลูกค้าที่เคยสมัครเข้าไปเล่นพนันออนไลน์ตามเว็บไซด์ต่าง ๆ โดยมีรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของเว็บพนันดังกล่าวเป็นคนจัดหาข้อมูลมาให้ ในคอมพิวเตอร์ของตนมีข้อมูลทั้งหมดหลายไฟล์ รวมทั้งสิ้นประมาณนับล้านรายชื่อ โดยตนได้ขายข้อมูลให้แก่ผู้อื่นไปแล้วกว่า 10 ครั้ง
นอกจากนี้ ยังยอมให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่าเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลสามารถนำมาทำรายได้ได้ดี ส่วนใหญ่เว็บพนันออนไลน์ต่างๆ จึงมักลับลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ามาเสนอขายให้แก่บุคคลทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำของกลางส่งตรวจพิสูจน์ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดในขบวนการต่อไป