จากกรณีเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ (05.15 น. ของวันที่ 14 ก.ค. ตามเวลาประเทศไทย) เกิดเหตุลอบสังหาร ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังขึ้นปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์
มีรายงานว่าหลังจาก ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุลอบยิงบนเวทีหาเสียง ซึ่งมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ หลังทรัมป์ขึ้นเวที มีเสียงปืนดังหลายนัด และเผยให้เห็นภาพของเขาที่เอามือจับที่ใบหูด้านขาว หลังจากนั้นการ์ดก็รีบขึ้นไปสร้างกำแพงมนุษย์ปิดบังเขาบนเวที ใบหน้าของเขาเปื้อนเลือดจากการถูกยิงเฉียดใบหูและไหลลงมาเปื้อนหน้าแล้วลงจากเวทีทันที แต่ ทรัมป์ก็ยังชูกำปั้นและตะโกนกับผู้มาร่วมงานอย่างไม่เกรงกลัวการถูกลอบสังหาร เกิดเป็นภาพประวัติศาสตร์การเลือกตั้งอันหนึ่งของอเมริกา
หลังจากที่ทรัมป์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขาก็ได้ออกมาโพสต์บน ‘ทรูธ โซเชียล’ แอปพลิเคชันส่วนตัวของทรัมป์ โดยมีเนื้อหาว่าเขาปลอดภัยดี ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ ร่วมกับ ‘ริชาร์ด โกลดิงเจอร์’ อัยการเขตบัตเลอร์เคาน์ตี ระบุว่า ที่เกิดเหตุมีประชาชนที่มาฟังการปราศรัยบาดเจ็บ 2 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้วิสามัญคนร้ายได้ทันทีหลังก่อเหตุ โดยคนร้ายได้ใช้ปืนไรเฟล AR-15 ยิงในระยะ 150 เมตรจากจุดปราศรัยเท่านั้น
ทางด้าน ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันและผู้ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อทราบข่าวก็รีบต่อสายตรงหาทรัมป์ทันที แต่ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาการสนทนา และ ‘ไบเดน’ เองก็ออกมาประณามการใช้ความรุนแรงทางการเมืองด้วย
และในคืนวันเสาร์นั้น ทางพรรครีพับลิกัน ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกข้อหาทางอาญาของทรัมป์ เนื่องจากมีกฎหมายที่ระบุว่า “ผู้สมัครที่ลงแข่งขัน หากมีคดีติดตัวจะถูกยุติการคุ้มครองจากหน่วยสืบราชการลับ” ซึ่งฝั่งรีพับลิกันมองว่าเพราะเหตุนี้ รวมทั้งการเติมเชื้อเพลิงระหว่างหาเสียงของเดโมแครต ที่กล่าวว่า “หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มันจะเป็นจุดจบของประชาธิปไตยในสหรัฐฯทันที” จึงทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงทางการเมืองขึ้น
วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 ทางสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) ได้เปิดเผยข้อมูลของผู้ก่อเหตุ เขามีชื่อว่า ‘โธมัส แมทธิว ครูกส์’ อายุ 20 ปี จบจากโรงเรียนเบเธลพาร์ค เป็นคนเรียนเก่ง เคยได้รับเงินรางวัล 500 เหรียญสหรัฐ จากความสามารถด้าน คณิตศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ เป็นคนเก็บตัวและมักถูกบูลลี่อยู่เสมอ
ปัจจุบันเขาทำงานในครัวสถานพยาบาลท้องถิ่น และเป็นสมาชิกชมรมยิงปืนขนาดใหญ่ที่ให้บริการในเพ็นซิลเวเนีย โอไฮโอ และ เวสเวอจีเนีย เชื่อกันว่าอาวุธที่ใช้มาจากที่ พ่อของเขาซื้อให้เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ด้านการเมืองตัวครูกส์เองก็ได้มีการลงทะเบียนกับฝ่ายรีพับลิกัน แต่ในปี 2021 เขาก็ได้บริจาคเงิน 15 เหรียญให้กับองค์กรเสรีนิยมของฝ่ายเดโมแครตเช่นกัน
จากเหตุการณ์นี้ ผู้นำและอดีตผู้นำหลายคนได้ออกมาประณามความรุนแรงในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน อย่างบารัค โอบามา ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นในแพล็ตฟอร์ม X โดยมีเนื้อหาว่า
“ไม่มีที่สำหรับความรุนแรงทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเรา แม้ว่าเรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราทุกคนก็ควรโล่งใจที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเพื่อความสงบและเคารพในการเมืองของเรา เขากับมิเชลหวังว่าทรัมป์จะฟื้นตัวโดยเร็ว”
วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 แน่นอนว่ายิ่งเกิดเหตุการณ์นี้ เดโมแครตก็ยิ่งอยู่นิ่งไม่ได้ ประกาศงดการออกเสียง และการสื่อสารกับภายนอก นอกจากนี้ ไบเดนยังยกระดับเพิ่มความปลอดภัยให้กับทำเนียบขาวและทรัมป์ เนื่องจากเขาเอง ก็ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันว่า มีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง จากวาทกรรมที่เขามักใช้หาเสียงเป็นประจำที่ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์เป็นฟาสซิสต์เผด็จการที่ต้องหยุดยั้งไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม” และต้องต่อสู้กับเสียงของคนในเดโมแครตที่มีแนวโน้มแปรพรรคมากขึ้น
กระแสมากมายในโซเชียลที่ส่วนใหญ่ไม่ได้พุ่งเป้าแค่กับประธานาธิบดี โจ ไบเดน และพรรคเดโมแครตอย่างเดียวเท่านั้น แต่หน่วยอารักขาก็ถูกตั้งคำถามไม่น้อยเลย โดยเฉพาะคำถามอย่างมือปืนสามารถเข้าถึงดาดฟ้าที่ห่างจากตำแหน่งของอดีตประธานาธิบดีบนแท่นในการชุมนุมกลางแจ้งได้อย่างไร
จากกรณีดังกล่าวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สั่งการให้คิมเบอร์ลี ชีเทิล ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดสำหรับการประชุมแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน แต่เมื่อได้ข้อมูลอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาจะเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบกัน
แต่ก็ยังไม่วายมีคำถามถึงการทบทวนว่าหน่วยสืบราชการลับมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปกป้องทรัมป์ก่อนที่จะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกันอย่างเป็นทางการหรือไม่ และจะมีการปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อดำเนินการกวาดล้างอาคารที่มีจุดชมวิวหรือไม่
ทั้งนี้ ทรัมป์จะเดินทางไปที่มิลวอกกีเพื่อร่วมการประชุมใหญ่ของพรรคตามเดิมในวันที่ 15 กรกฎาคม ซึ่งในงานนี้ทรัมป์จะกลายเป็นผู้แทนพรรคชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการและคาดว่าอาจมีการประกาศชื่อคู่หูลงชิงเก้าอี้รองประธานาธิบดีด้วย
ยังไม่พอ กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ลุกฮือ รวมตัวอยู่ริมถนนในเมืองเบดมินสเตอร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนทรัมป์ โดยโบกธงอเมริกันและธงของทรัมป์ที่เขียนว่า “TRUMP 2024 : TAKE AMERICA BACK” ซึ่งมีเสียงแตรดังขึ้นเป็นระยะ ๆ จากผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ขับรถผ่านไปมา
ส่วนบริเวณหน้าอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก มีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ออกมาแสดงพลังสนับสนุนและแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกับทรัมป์เช่นกัน ทั้งโบกธง เปิดเพลง บีบแตรและส่งเสียงเชียร์ให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ โดยหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว ตำรวจสหรัฐฯได้ระดมกำลังรักษาความปลอดภัยและตรึงกำลังบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารแห่งนี้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก
ล่าสุด ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเหตุพยายามลอบสังหารทรัมป์ แต่อาจเรียกได้ว่าเป็นฝ่ายสร้างสถานการณ์ที่ชักนำให้เกิดเหตุรุนแรงนี้ขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถหาเหตุจูงใจในการก่อเหตุของครูกส์ได้