พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช. ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบช.สพฐ.ตร.) เปิดเผย ความคืบหน้าคดีเหตุ แม่ลูก 3 ชีวิต เสียชีวิตในห้องน้ำที่บ้าน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 2 พร้อมกำลังตำรวจของ สภ.เมืองชลบุรี ได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ได้มีการเข้าไปตรวจสอบด้านในโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไป และมีการตั้งเครื่องตรวจสอบอากาศภายในห้อง มีตำรวจเฝ้าอยู่ด้านหน้าไม่ให้ใครเข้าไปภายในโดยเด็ดขาด
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทราบข้อมูลจากพยานว่า ก่อนเกิดเหตุสมาชิกในบ้านได้ไปซื้อ ผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตัน ยี่ห้อหนึ่งมา เพื่อแก้ปัญหาท่อตันในห้องน้ำภายในบ้าน ซึ่งมีลักษณะเป็นขวดสีขาวทึบ ฝาสีแดง ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวภายในถังขยะ ที่มีปริมาณของเหลวเหลืออยู่ก้นขวด
ส่วนในห้องน้ำ พบ ผลิตภัณฑ์ล้างห้องน้ำ ยี่ห้อตามท้องตลาด ทั่วไปประมาณ 4 ขวด โดยแต่ละขวดถูกใช้งานไปแล้ว
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ยังเก็บดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่ประตูห้องน้ำ รวมถึงขวดน้ำดื่มและอาหารภายในบ้าน เพื่อนำไปตรวจสารพิษเจือในอาหารด้วย แต่เบื้องต้นในที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตทันที 1 ราย และอีก 2 รายไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งทั้งหมดไม่มีบาดแผลและไม่พบรอยไหม้ในช่องปาก
จากการสอบปากคำพยานทราบว่า น่าจะมีการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันไปประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังได้กลิ่นเหม็นไหม้รุนแรง และมีอาการแสบตา แสบจมูก ส่วนห้องน้ำพบมีขนาดเล็ก กว้าง 1.2 เมตร ยาว 2.5 เมตร สูง 2.05 เมตร และมีช่องระบายอาการเพียงช่องเดียวกว่า 40 เซนติเมตร ขณะที่ประตูเป็นลักษณะผลักเข้าไปด้านใน จึงสันนิษฐานว่าหากมีคนเป็นลมติดอยู่ภายใน คนที่เข้าไปช่วยจะต้องปิดประตูเพื่อทำการช่วย ก็จะมีการสูดดมสารเคมีเข้าไปด้วย
“ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ไปหาซื้อผลิตภัณฑ์ล้างท่ออุดตันแบบเดียวกัน มาทำการตรวจพิสูจน์ พบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นของเหลวสีดำ เป็นกรดซัลฟิวลิก ที่มีความเข้มข้นสูง และไม่สามารถนำไปใช้ร่วมกับสารที่มีฤทธิเป็นด่าง โดยเฉพาะโซดาไฟได้ หากนำไปใช้ร่วมกันแล้วไปเจอสิ่งอุดตันภายในท่อจะทำปฏิกิริยา กลายเป็นก๊าซไข่เน่า มีควันพวยพุ่งขึ้นมา ในอดีตเคยมีกรณีการเสียชีวิตจากก๊าซไข่เน่ามาแล้ว”
สำหรับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว หาซื้อได้ยาก ไม่มีขายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป แต่จะพบในร้านขายวัสดุก่อสร้าง ขณะที่เบื้องต้นพบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเลขทะเบียนอย. และไม่มีทะเบียนวัตถุอันตรายที่ใช้ในการสาธารณสุข โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จะรายงานผลการตรวจสอบให้กับตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีดำเนินการต่อไป