วิวาห์สยอง ควันไฟพุ่งจากเจ้าสาว เผาหน้าเสียโฉม ช็อกต้นเหตุคือสิ่งที่ใช้แทบทุกงาน

เจ้าสาวพลีชีพแชร์อุทาหรณ์ ไฟไหม้ใบหน้าจนอาจเสียโฉมตลอดชีวิต เพราะสเปรย์ที่ชอบใช้กันในงานปาร์ตี้

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2566 หญิงสาวจากเมืองไถโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ได้โพสต์ภาพคู่กับเจ้าบ่าวของเธอ ซึ่งได้รับการแสดงความยินดีและคำอวยพรดีๆ จากชาวเน็ตนับไม่ถ้วนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก

แต่เพียง 4 วันต่อมา ชาวเน็ตต้องตกใจอย่างมาก เมื่อเธอแชร์คลิปวิดีโอบอกเล่าประสบการณ์สุดระทึกในงานแต่งงาน พร้อมเผยใบหน้าที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผล มีรอยไหม้รุนแรงบริเวณคิ้วและแก้ม ซึ่งอาจต้องเสียโฉมไปตลอดชีวิต โดยบอกว่าสาเหตุเกิดจากสเปรย์สายรุ้ง หรือสเปรย์ปาร์ตี้ ที่มักใช้กันในงานปาร์ตี้ต่างๆ

ในคลิปวิดีโอนั้นจะเห็นว่า หญิงสาวปรากฎตัวออกมาจากเกี้ยวอย่างยิ้มแย้ม สวมชุดเจ้าสาวสีแดงแบบดั้งเดิมของจีน ก่อนที่จะถูกเพื่อนๆ และแขกที่มาร่วมงานฉีดสเปรย์ใส่จำนวนมาก แม้จะเป็นการสร้างบรรยากาศให้สนุกสนาน แต่ก็ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการเดินเคลื่อนที่ เธอจึงพยายามปกปิดใบหน้าและซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าบ่าว

ขณะนั้นเองจู่ๆ ก็มีควันพวยพุ่งออกมาจากเส้นผมของเจ้าสาว แม้ว่าเธอจะพยายามก้าวเดินเพื่อให้งานเฉลิมฉลองยังดำเนินต่อไปได้ แต่สีหน้าก็แสดงความเจ็บปวดอย่างปิดไม่มิด ในขณะที่เจ้าบ่าวพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องภรรยาของเช่นกัน

“ตอนแรกฉันรู้สึกร้อนที่หน้า แต่พอวันรุ่งขึ้นใบหน้าของฉันก็เต็มไปด้วยแผลพุพอง” เธอเล่า

ตามรายงานของ South China Morning Post (SCMP) ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สเปรย์สายรุ้ง หรือสเปรย์ปาร์ตี้ กลายเป็นส่วนประกอบยอดนิยมของประเพณีจัดงานแต่งงานในไท่โจว เพราะนอกจากจะสร้างบรรยากาศรื่นเริงแล้ว ยังราคาไม่แพง ทำความสะอาดง่าย และไม่เปื้อนเสื้อผ้า

อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้มีความเสี่ยงอันตรายสูงมาก เนื่องจากมีสารประกอบพลาสติกที่ละลายในตัวทำละลายอินทรีย์ที่ติดไฟได้ เช่น เอทานอล หรือมีเทน ดังนั้น เมื่อนำมาใช้จะสามารถสร้างละอองลอยที่ติดไฟได้

แน่นอนว่าเหตุการณ์ข้างต้นทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีน รู้สึกเห็นใจและเป็นกังวลอย่างมาก มีคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์เช่น

“ประกายไฟเพียงจุดเดียวก็สามารถจุดไฟจากเส้นสายรุ้งเหล่านี้ได้ และทำให้เกิดเพลิงไหม้ทันที นี่ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง”

“กรณีแบบนี้คนฉีดพ่นสเปรย์จะสามารถโดนฟ้องร้องได้ไหม?”

“คนที่เล่นแกล้งกันในงานแต่งงานแบบนี้มันบ้าไปแล้ว มักคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกตราบใดที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น”