ล่าสุดในรายการโหนกระแส กัน จอมพลัง พาครอบครัวสาว 17 คู่กรณีนักมวย ร่วมออกรายการและได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายกัณฐัศว์กล่าวว่า แม่ของเด็กอายุ 17 ปี ติดต่อตนมาเพื่อขอความช่วยเหลือ จึงเตรียมเอกสารหลักฐานมาพร้อมพาคุณตาของน้องมาให้ข้อมูลด้วย เนื่องจากครอบครัวเป็นกังวลเพราะอีกฝ่ายเป็นคนมีชื่อเสียง และรู้จักคนใน
จ.ขอนแก่นเยอะ และน้องอายุ 17 ปี อ้างว่ามีตำรวจในพื้นที่ไปหาที่บ้านและบอกว่า ขึ้นรถหน่อยเดี๋ยวจะไปเคลียร์ น้องก็ตกใจว่าจะไปไหน คุณยายของน้องก็ปฏิเสธไป พร้อมกับอ้างว่า ไม่มีเงินจะเดินทางไป แต่คนที่อ้างว่าเป็นตำรวจก็ยืนยันว่า ไปเถอะ ได้เงินเยอะแน่นอน
นายกัณฐัศว์กล่าวอีกว่า ส่วนที่สถานบันเทิงอ้างว่าน้องอายุ 17 ปี ปลอมบัตรประชาชนเพื่อให้สามารถเข้าไปในร้านได้ ซึ่งก็อยากให้ตรวจสอบว่ามีการปลอมบัตรจริงหรือไม่ ซึ่งตนได้สอบถามความจริงกับน้องอายุ 17 ปี ยืนยันว่าไม่ได้ปลอมบัตรแน่นอน
กัน จอมพลังบอกว่า เรื่องนี้ตนมาดูในฐานะคนกลาง ไม่เข้าข้างใคร เพราะข้อเท็จจริงยังไม่ถูกพิสูจน์ เรื่องนี้มีหลากหลายประเด็น ทั้งเรื่องการที่ครอบครัวบอกว่าลูกหลานเป็นคนดี แต่เด็กหนีไปเที่ยวทั้งที่อายุไม่ถึง จะมาบอกว่าเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ต้องทบทวนให้ดีในวันเกิดเหตุ เด็กออกจากกาฬสินธุ์มากับเพื่อน เพื่อจะเข้ามาสอบใน จ.ขอนแก่น คืนห่อนสอบ เขาบอกครอบครัวว่าจะไปเที่ยวห้องกับเพื่อน มารู้หลังเกิดเรื่องว่าไปเที่ยวผับ แต่เด็กยืนยันว่าไม่ได้ปลอมแปลงบัตร เป็นการแสดงบัตรประชาชนในมือถือให้การ์ดดู เพราะในวันนั้นไม่ได้เอาบัตรใบจริงไปด้วย ยืนยันไม่ได้ปลอมแปลงตัดต่อบัตรแน่นอน
นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ชี้ว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็นส่วนๆ เป็นประเด็นไป เรื่องของคุณสมรักษ์ พูดได้เต็มปากว่ามีความผิดแน่นอน ในส่วนของการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพรากผู้เยาว์อายุเกินกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี ไม่ว่าผู้เยาว์นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ผู้กระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000 ถึง 200,000 บาท หากพิสูจน์ได้ว่าตัวเด็กผู้เสียหายไม่มีความยินยอม
แต่หากตัวเด็ก ยินยอมไปกับทางผู้กระทำความผิดก็จะเข้าความผิดตามมาตรา 319 ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ถึง 10 ปี ปรับตั้งแต่ 4,000 ถึง 20,000 บาท ซึ่งในมาตรา 319 นี้โทษปรับจะมีอัตราโทษปรับที่น้อยกว่ามาตรา 318 เพราะตัวผู้เสียหายยินยอมไปกับผู้ทำความผิดแต่ในทางกฎหมายมันมีแง่มุมในการ่อสู้ ด้วยการชูประเด็นว่า ไม่รู้ ไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่ ตามกฎหมายคือ ไม่รู้ แปลว่าไม่มีเจตนากระทำความผิด การรู้หรือไม่รู้ว่าอายุแค่ 17 ปี จะเป็นตัวชี้วัด ว่าการกระทำความผิดนั้นมีเจตนาหรือไม่
ในส่วนของการปลอมหรือไม่ปลอมบัตร มองว่าต่างฝ่ายต่างต้องหาหลักฐานมาแสดง ทั้งทางเด็ก และทางร้านสถานบันเทิงดังกล่าว ที่ออกมาตั้งโต๊ะแถลงว่าเด็กปลอม พ.ศ.เกิด ที่อยู่ในบัตร ถ้ามีหลักฐานชี้ข้อเท็จจริงได้ เด็กจะมีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารราชการ แต่ถ้าน้องไม่ได้ปลอม ทางร้านก็มีความผิด
พ่อเลี้ยงของน้อง ยอมรับว่าลูกสาวตนก็ทำผิดที่ไปเที่ยวสถานบันเทิง แต่อยากให้สังคมมองว่า เรื่องความผิด เรื่องคดีมันเป็นคนละเรื่องกัน
ในวันเกิดเหตุน้องเล่าให้ฟังว่าตนจะกลับเพราะเพื่อนเมา ไม่สามารถขี่รถจักรยานยนต์ได้ น้องขอให้การ์ดที่ร้านไปส่งที่โรงแรมที่น้องกับเพื่อนจองห้องพักไว้ ปรากฏว่าสมรักษ์กระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายด้วย เป็นซ้อนสาม ส่วนการ์ดก็พาไปส่งที่โรงแรมของสมรักษ์ ไม่ใช่โรงแรมของน้อง
ตอนนั้นด้วยความกลัว เขาให้ทำอะไรก็ต้องยอมไปก่อน แต่กลัวมาก สุกท้ายพอเข้าห้องไปก็ถูกล่วงละเมิดทางเพศทันที น้องทนอยู่อย่างนั้นนานมาก จนกระทั่งน้องบอกว่าหิวข้าว จะขอลงมาซื้อข้าว พอออกจากห้องมา ก็รีบทักหาเพื่อน ให้เพื่อนมารับ โดยบอกว่าถูกสมรักษ์ล่วงละเมิด ตอนที่ครอบครัวไปเจอ น้องร้องไห้ไม่หยุด สุดท้ายก็พาน้องไปแจ้งความทางครอบครัวยืนยันว่าไม่ต้องการได้เงินจากใคร ที่บ้านทำมาหาเลี้ยงชีพ กรีดยางมีเงินมากพอจะเลี้ยงดูครอบครัวได้ ยืนยันว่าเรื่องนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่ขอรับเงินจากใครแน่นอน