เจ้าของรีสอร์ตมาง้อขอคืนดีภรรยาวัย 20 แต่ไม่สำเร็จ ยิงดับ 4 ศพ เหลือเพียงลูกสาววัย 1 ขวบ 8 เดือน พ่อตารอดหวุดหวิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 กันยายน) ร.ต.อ.พงษ์พิชิต ธนาพันธุ์ภักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงกันตายที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 บ.ขามป้อม ต.โพนเพ็ก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว จากการเข้าไปตรวจสอบพบศพผู้เสียชีวิต นอนอยู่ในห้องน้ำ 1 ราย และในห้องนอนอีก 3 ราย และยังพบเด็กหญิงวัย 1 ขวบ 8 เดือน อยู่ข้าง ๆ ศพ เจ้าหน้าที่จึงได้อุ้มออกมา
จากการตรวจสอบภายในห้องนอนทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางจรวยพร อายุประมาณ 50 ปี นอนอยู่บนที่นอน น.ส.คลิตา อายุ 20 ปี นั่งเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน นายนพดล อายุประมาณ 40 ปี นอนเสียชีวิต อยู่บนที่นอน ส่วนผู้เสียชีวิตในห้องน้ำคือ นายพลพิพัฒน์ อายุ 18 ปี
จากการสอบสวนทราบว่า เพื่อนบ้านซึ่งมีบ้านเรือนติดที่เกิดเหตุ เห็นนายนพดลขับรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านเมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. จากนั้นได้เดินเข้าไปในบ้าน 30 นาที ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 9 นัด ติดต่อกันแล้วเงียบไป เชื่อว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบปลอกลูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่จำนวน 9 นัด และพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก อยู่ข้างศพนายนพดล
สาเหตุเบื้องต้น ทราบว่า นายนพดล ซึ่งเป็นอดีตสามี น.ส.คลิตา ได้ติดตามมาง้อขอคืนดี หรือทราบเหตุว่า น.ส.คลิตา มีสามีใหม่ จึงได้เกิดความหึงหวง ใช้อาวุธปืนยิง นางจรวยพร แม่ยาย น.ส.คลิตา อดีตภรรยา และนายพลพิพัฒน์ ญาติของอดีตภรรยา จนถึงแก่ความตาย
หลังจากนั้น นายนพดล ได้ใช้อาวุธปืน ยิงตัวเองตายตาม โดยในห้องนอนที่พบศพนั้นมี ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 1.8 ปี บุตรของนายนพดล และ น.ส.คลิตา ยืนตัวสั่นด้วยความตกใจ
นายเวียงชัย พ่อของนางสาวคลิตา เล่าว่า ลูกสาวได้คบกับนายนพดลเป็นเจ้าของรีสอร์ตไม่ทราบชื่อที่ จ.หนองคาย มาได้ประมาณ 4-5 ปี โดยไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกัน จากนั้นได้มีลูกสาวคือน้องเอ
ระยะหลังทั้งคู่มีปัญหา โดยลูกสาวได้ถูกนายนพดลทำร้ายทุบตีบ่อยครั้ง และมีปากเสียงมานาน และลูกสาวบอกจะไม่ยอมกลับไปคบกับนายนพดลอีก แม้ว่านายนพดลจะตามมาขอคืนดีหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดได้เดินทางมาหาเมื่อประมาณวันจันทร์ โดยซื้อนมมาฝากให้ลูก
จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้นายนพดลได้เดินทางมาที่บ้าน ตอนนั้นตนเองได้ออกไปซื้อของในหมู่บ้าน จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากบ้านหลายนัด ก่อนที่จะเข้าไปดู แต่ตนเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไป จนกระทั่งตำรวจได้เข้าตรวจสอบ พบว่าทั้ง 4 คน เสียชีวิตภายในบ้าน ซึ่งหากตนเองอยู่ในบ้านช่วงเวลานั้น ก็คงจะถูกยิงตายแน่นอน