November 22, 2024

วันนี้ของ “เด็กที่มีไอคิวสูงสุดในโลก” พูดได้ 5 ภาษาตั้งแต่ 5 ขวบ, จบป.เอกตอนอายุ 15 ปี

เรื่องราวของ คิมอุงยอง (อังกฤษ : Kim Ung-Yong, เกาหลี : 김웅용) อดีตเด็กอัจฉริยะที่ได้ชื่อว่ามี IQ สูงสุดของโลก แต่แม้จะมีมันสมองที่ชาญฉลาด เขาก็ยังเจ็บปวดกับความคาดหวังของคนรอบข้าง

คิมอุงยอง เกิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 1962 เป็นวิศวกรโยธาชาวเกาหลีใต้ ในวัยเยาว์เขาได้รับการยกย่องว่าเป็น เด็กอัจฉริยะที่มี IQ สูงสุดที่บันทึกไว้ โดยทำคะแนนได้มากกว่า 210 บน Stanford–Binet Intelligence Scale จากนั้นเขาเข้ามหาวิทยาลัยเมื่ออายุเพียง 4 ขวบ พอ 5 ขวบ เขาก็พูดได้ 5 ภาษาแล้ว และเมื่ออายุ 7 ขวบ เขาได้รับคำเชิญให้ทำงานที่ NASA (องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ)

คุณพ่อของ คิมอุงยอง มีชื่อว่า คิมซูซอน (Kim Soo-Sun) เป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยคอนกุก (Konkuk) และคุณแม่ของเขา ยูมยองฮยอน (Yoo Myung-Hyun) มีอาชีพครู โดยคุณแม่เผยว่าเมื่อ คิมอุงยอง อายุได้เพียง 1 ขวบ ก็ได้เรียนรู้ทั้งตัวอักษรเกาหลีและอักษรจีน 1,000 ตัว โดยการศึกษาผ่าน Thousand Character Classic ซึ่งเป็นบทกวีจีนในศตวรรษที่ 6

hz5btdbcfcvta5bid06ezwsh5__3z

เมื่ออายุได้ 3 ขวบ คิมอุงยอง ก็สามารถแก้โจทย์แคลคูลัสได้ และยังได้ตีพิมพ์หนังสือขายดีจำนวน 247 หน้า ซึ่งประกอบด้วยเรียงความภาษาอังกฤษและเยอรมัน รวมไปถึงงานเขียนอักษรและภาพประกอบของตัวเอง จากนั้นเขาสามารถพูดได้ 5 ภาษาในวัย 5 ขวบ ได้แก่ เกาหลี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน และ ญี่ปุ่น

และในวัย 5 ขวบนั่นเอง คิมอุงยอง ได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ฟูจิที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ชมด้วยการแก้สมการเชิงอนุพันธ์ ต่อมาเขาได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยเขาได้แก้สมการเชิงอนุพันธ์และอินทิกรัลที่ซับซ้อน

ในวัย 8 ขวบ คิมอุงยอง ได้ไปเรียนฟิสิกส์นิวเคลียร์ที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด สามารถสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยและปริญญาเอกได้ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่อายุน้อยที่สุดในยุคของเขา

49162052.4

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทำงานกับ NASA มาหลายปี เขาตัดสินใจกลับไปเกาหลีใต้และเริ่มชีวิตใหม่ เขาละทิ้งเส้นทางการเป็นนักวิจัยในสหรัฐอเมริกาเพื่อไปใช้ชีวิตแบบธรรมดา และเลือกเรียนปริญญาเอกด้านวิศวกรรมโยธาในประเทศบ้านเกิด

การที่เขาออกจาก NASA อย่างไม่คาดคิดนั้นทำให้หลายคนผิดหวัง จนทำให้เขาได้รับฉายาว่า “อัจฉริยะที่ล้มเหลว” แต่เขาเคยพูดถึงการที่สังคมคาดหวังจากเขามากเกินไปตั้งแต่เขายังเด็ก ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับความกดดันในหลายๆด้าน และเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการในเวลาต่อมา

ในปี 2010 คิมอุงยอง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำที่ว่าเขาเป็น “อัจฉริยะที่ล้มเหลว” โดยกล่าวว่า “ผมพยายามบอกคนอื่นว่าผมมีความสุขในแบบที่ผมเป็นอยู่ แต่ทำไมผู้คนถึงต้องเรียกความสุขของผมว่าความล้มเหลวด้วย?”

ssi_20140929103510_o2

“บางคนคิดว่าคนที่มี IQ สูง สามารถเป็นผู้ที่มีความสามารถรอบด้านได้ แต่นั่นไม่เป็นความจริง ดูผมสิ ผมไม่มีพรสวรรค์ด้านดนตรี และผมก็ไม่ได้เก่งกีฬาด้วย สังคมไม่ควรตัดสินใครด้วยมาตรฐานเดียว ทุกคนมีระดับการเรียนรู้, ความหวัง, พรสวรรค์ และความฝันที่แตกต่างกัน และเราควรเคารพในสิ่งนั้น”

“ที่อเมริกา ผมเหงามาก ไม่มีใครมาเป็นเพื่อนกับผมเลย หลังเลิกงาน ผมสามารถออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่างๆได้ แต่ไม่มีใครไปกับผมเลย ผมออกมาจากต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก มันไม่มีที่ว่างสำหรับเด็กๆ แม้ว่าทุกคนจะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม”

 

ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา คิมอุงยอง ทำหน้าที่เป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติชุงบุก จนเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2014 เขาได้เป็นรองศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยชินฮันและรองประธานศูนย์วิจัยการพัฒนาคยองกีเหนือ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบของตัวเอง โดยไม่ให้คำว่า “เด็กอัจฉริยะ” มาสร้างความกดดันอีกต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *