จากกรณีหญิงสาว 17 ปี เข้าแจ้งความปมพรากผู้เยาว์ หลังจากเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จังหวัดขอนแก่น ได้พบกับ สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเหรียญ
ทองโอลิมปิก เจ้าของฉายา ไม่ได้โม้ โดยกล่าวหา สมรักษ์ ว่า หลังสถานบันเทิงปิดเวลาประมาณ 03.00 น. ถูกกระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรมแห่งหนึ่ง
ต่อมา วันที่ 13 ธ.ค. 2566 กลุ่มเพื่อนสาววัย 17 ได้ออกมาไลฟ์สดหลังมีคลิปปรากฏในภาพช่วงที่ทั้ง 2 คน ยืนรออยู่ข้างสถานบันเทิง ก่อนสาว 17 จะเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ซ้อน 3 ออกไปกับ สมรักษ์ คำสิงห์
โดยหญิงสาว 2 คน ที่มีคลิปปรากฏในภาพ ได้ระบุว่า ในการไลฟสดครั้งนี้เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง โดยขอไม่พูดเกี่ยวกับคดีของผู้เสียหาย แต่เนื่องจากพวกตนถูกนำภาพไปโพสต์ไปแชร์ในโซเชียล ว่าตนเป็นผู้
เสียหาย ทำให้คนเข้าใจผิด ตอนนี้ถูกสังคมด่าว่าทอดทิ้งเพื่อน ไม่ช่วยเพื่อน ไม่รักเพื่อน ไม่ห้ามเพื่อน ซึ่งขออธิบายให้ฟังว่าในวันเกิดเหตุนั้นเพิ่งรู้จักกับ น.ส.เอ
เป็นวันแรก โดยเป็นเพื่อนของเพื่อนในกลุ่มและเป็นคนบ้านเดียวกันชักชวนมาเที่ยวด้วย โดยที่ตนทั้ง 2 คนไม่รู้จักและไม่ไม่รู้เรื่องมาก่อน และไม่ได้ชวนมาเที่ยวด้วยแต่อย่างใด
ในช่วงที่กินกันในร้านอยู่โต๊ะเที่ยวกัน 4 คน ทุกคนก็สังสรรค์ดื่มกินกันตามปกติ ก่อนที่พวกเราจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินกลับมาก็พบว่า น.ส.เอ อยู่ที่โต๊ะของ
สมรักษ์แล้ว จึงเข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ แต่น.ส.เอไม่ตอบ จึงพากันกลับไปที่โต๊ะ กระทั่งร้านปิดพากันไปยืนอยู่ที่หน้าร้าน ซึ่งเราเป็นคนที่เดินไปถาม
น.ส.เอว่าจะไปกับเขาจริงๆเหรอ และยังมีเพื่อนผู้ชายที่อาสาจะไปส่งกลับห้องพัก โดยพาซ้อนกลับไปกับเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย แต่ น.ส.เอ ชักสีหน้าไม่พอใจ เพราะต้องการจะไปกับนายสมรักษ์
และทำเอาช็อกหนักเมื่อล่าสุด สำนักข่าวดัง ยังได้เผยคำให้การของเพื่อนซ้ำอีก โดยได้ระบุว่า รู้ยันเสร็จ สาว 17 เล่าเพื่อนยิบฝ่ายชายทำอะไร สาวบวบตัวเองสารคัดหลั่งเปื้อนทั้งตัว ตำรวจรอตรวจ DNA ตรงกับฝ่ายชายหรือไม่
โพสต์ดังกล่าว
เรียบเรียง สยามนิวส์