เบลล่า ราณี อึ้ง! หุ่นขี้ผึ้งตัวเอง ตาเอย ไรผมเอย สีผมเอย เหมือนยันเส้นเลือด พร้อมแจงดราม่า แอน ทองประสม ไม่ชวนเล่นละคร
วันที่ 18 ม.ค. ที่ ลานเอเทรี่ยม 1 สยามเซ็นเตอร์ นางเอกสาวชื่อดัง ‘เบลล่า’ ราณี แคมเปน ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้ง “เบลล่า ราณี แคมเปน” ถึงความรู้สึกที่ได้มีหุ่นขี้ผึ้งเป็นของตัวเอง พร้อมแจงดราม่าหลังมีคนตั้งกระทู้ถาม “ทำไม แอน ทองประสม ไม่ชวน เบลล่า เล่นละคร”
เปิดตัวหุ่นขี้ผึ้ง “เบลล่า ราณี แคมเปน” รู้สึกยังไงบ้าง? “เรียกว่าเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่มากในชีวิตที่จะได้มีหุ่นขี้ผึ้งกับมาดาม ทุสโซ่ ต้องบอกว่ากระบวนการของการคุยกันกับมาดาม ทุสโซ่ ทำมานานมากและอุบโปรเจ็กต์นี้ไว้นานมากๆ ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อมายอมรับว่าตกใจนิดนึง เพราะเราก็เคยมาดูหุ่นขี้ผึ้งของที่นี่ แล้วไม่เคยคิดว่าจะมีเราในวันนี้ที่จะได้มาร่วมงานกับ มาดาม ทุสโซ่ รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติมากๆ”
ครั้งแรกที่ได้เห็นหุ่นตัวเอง? “อึ้งเหมือนกันค่ะ ตะลึงเลย คือตอนแรกได้เห็นเป็นรูปก่อนก็รู้สึกว่าเหมือนแล้ว แต่พอได้มาเห็นตัวจริงของหุ่น รายละเอียดอะไรต่างๆ มันใช่มาก เราก็คือไปยืนจ้องตัวเองอยู่ ตาเอย ไรผมเอยเหมือนมาก เหมือนยันเส้นเลือดเลยค่ะ แล้วก็มีการมาเก็บงานที่ไทยต่อด้วยในเรื่องของสีผิว”
เห็นว่าตอนที่ไปทำยุ่งยากมาก? “ยากค่ะ คุยกันว่าเราจะยืนโพสท่าไหน ใส่ชุดอะไร เครื่องประดับแบบไหนที่จะพอดีที่สุดในการที่หุ่นตัวนี้จะได้ไปทั่วโลก แล้วเราก็ไม่ใช่แค่เป็นตัวคาแร็กเตอร์หรือตัวละครเท่านั้นจากบุพเพสันนิวาส แต่มันเป็นการพรีเซ็นต์ถึงความเป็นไทยออกไปให้ทั่วโลกได้เห็นด้วย เพราะว่าตอนนี้ก็มีจองไว้หลายประเทศแล้ว อังกฤษ จีน ไต้หวัน และอีกหลายที่ เรียกว่าหุ่นตัวนี้จะเดินสายเยอะเลย ตัวไม่ได้ไปส่งหุ่นไปแทน ซึ่งเราก็ดีใจเพราะว่าเป็นหุ่นที่ได้ใส่สุดไทยหุ่นแรกด้วยค่ะ”
ในมุมมองของเราคิดว่าการที่คนคนหนึ่งจะมีหุ่นขี้ผึ้งเป็นของตัวเอง ต้องเป็นยังไง?
“อันนี้ไม่กล้าพูดเลย เอาเป็นว่าผลงานที่เราตั้งใจทำออกไปมากๆ แล้วละครชิ้นนี้มันได้รับความสำเร็จไม่ใช่แค่ในเมืองไทยแต่ไปทั่วโลกด้วย อันนี้ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้ มาดาม ทุสโซ่ รู้สึกว่าอยากจะมีหุ่นขี้ผึ้งที่เป็นคาแร็กเตอร์ของเบล ฝากให้ทุกคนมาดูกันเยอะๆ ขนาดเบลเห็นยังขนลุกเองเลยค่ะ ที่มาดาม ทุสโซ่ เปิดตั้งแต่ 10 โมงถึงหนึ่งทุ่มค่ะ”
ถามถึงที่มีคนไปตั้งกระทู้ว่า ทำไม แอน ทองประสม ถึงไม่ชวน เบลล่า เล่นละครเลย?
“ไม่มีอะไร ความจริงประเด็นนี้ไม่น่าเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เพราะถ้าทุกคนได้ดูสัมภาษณ์เบลจะพูดบ่อยมากๆ ว่าพี่แอนเป็นไอดอลของเบล และเป็นนักแสดงที่เบลชื่นชอบมากๆ จริงๆ พี่แอนเคยมีติดต่อเข้ามาหนึ่งครั้ง แต่เหมือนด้วยระยะเวลา ด้วยคิว และปัจจัยหลายๆ อย่าง เลยทำให้ตอนนั้นไม่ได้ร่วมงานกัน แต่เชื่อว่ายังไงก็จะได้เจอกันหรือทำงานด้วยกันอยู่แล้วในอนาคตค่ะ”
ตอนนั้นที่เราปฏิเสธไป ทางพี่แอนก็เข้าใจใช่ไหม?
“พี่แอนเข้าใจค่ะ เพราะว่าพี่แอนก็ทำงานตรงนี้มานาน อยู่วงการเดียวกันก็เข้าใจปัจจัยหลายๆ อย่าง”
กลายเป็นคนจะไปโยงเรื่องนั้นเรื่องนี้ว่ามีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?
“ไม่มีอะไรเลย รักพี่แอนมากค่ะ เอาจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้เล่นกับพี่แอนก็เหมือนได้ทำงานร่วมกับไอดอลของเรา เราก็อยากทำด้วยอยู่แล้ว หลังจากนี้ถ้าพี่แอนติดต่อมาอีก คือถ้าคิวได้หรืออะไรต่างๆ เบลก็พร้อมอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าตั้งแต่มีดราม่าขึ้นมายังไม่มีโอกาสได้คุยกับพี่แอนเลย น่าจะเป็นช่วงที่เบลอยู่ต่างประเทศมั้งคะ”
กลัวไหมว่าจะมีคนเข้าใจผิดและเชื่อไปตามนั้นว่าเรามีปัญหากันจริง?
“ไม่มีอะไรเลยจริงๆ เบลอยากจะบอกว่าตอนที่เรียนปริญญาโท เบลทำเรื่องเกี่ยวกับบริษัทพี่แอนเป็นเล่มจบของเบลด้วยนะคะ เรียกว่าได้เคยมีโอกาสไปศึกษาเกี่ยวกับบริษัทกับพี่เขาด้วย”
ลองจินตนาการซิว่าถ้าจะได้ร่วมงานพี่แอนที่เป็นผู้จัด จะเป็นบทบาทแบบไหนดี?
“โอ้โห! ให้พี่แอนเขาเสนอไหมคะ เบลไม่กล้าพูดหรอก ยังไงก็เล่นได้หมด แต่ละครของพี่แอนแต่ละเรื่องก็เข้มข้นทั้งนั้น เอาจริงๆ ถ้าได้เล่นมันก็เป็นการพิสูจน์ฝีมือของตัวเองอีกอย่างหนึ่งด้วย ส่วนที่บอกว่าพี่แอนขึ้นชื่อเรื่องเนี้ยบทุกอย่าง เบลว่าก็ดีแล้วนะคะเราจะได้เก่งไง เราเองก็เตรียมความพร้อมเอาไว้ให้พร้อมทุกด้านแล้วกัน เบลก็หวังว่าจะได้ร่วมงานกันเร็วๆ นี้ค่ะ”
อยากฝากบอกอะไรกับแฟนๆ ที่คาใจและคิดมาก?
“ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ค่ะ เราก็เหมือนเป็นทั้งนักแสดงร่วมช่องและอยู่สังกัดเดียวกันด้วย ยังไงก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่มีปัญหาอะไรกับใครเลย เบลเลิฟพี่แอนค่ะ”