‘เศรษฐา’ ควง ‘อุ๊งอิ๊ง’ ชมมวยไทย ‘แพทองธาร’ ขึ้นสังเวียน ชูซอฟต์พาวเวอร์ ประกาศดันเข้าโอลิมปิกโลก เล็งตั้งสถาบันมวยแห่งชาติ ยกระดับมวยไทย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 ม.ค. 2567 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และผู้เรียนหลักสูตรรวมมิตร
รวมถึงสส.พรรคเพื่อไทย เยี่ยมชมกิจกรรมการแสดงมวยไทยและชมการไหว้ครูของเยาวชนมวยไทย รวมถึงชมการแสดงศิลปะการไหว้ครูของ ร.ท.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือบัวขาว บัญชาเมฆ และโชว์การชกมวยกับนักมวยชาวต่างประเทศด้วย ซึ่งถือเป็นซอฟพาวเวอร์อย่างหนึ่งของประเทศไทย
โดยนายกฯ ได้ชมการแสดงอย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์จากผู้เข้าร่วมชม โดยเฉพาะช่วงการโชว์อาวุธแม่ไม้มวยไทยของ บัวขาว บัญชาเมฆ และพญาหงส์ บัญชาเมฆ นักมวยหญิง แชมป์ K1 ที่โชว์แม้ไม้มวยไทยได้อย่างถึงใจ
ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้รู้สึกดีใจมากและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ขออนุญาตเป็นตัวแทนคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ บอกเล่าให้ฟังว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังทำเกี่ยวกับมวยไทยโดยตรง มวยไทยจะต้องไปโอลิมปิกโลกให้ได้
หลายๆ ท่านที่อยู่ในที่นี้ เชื่อว่าอยากเห็นภาพของตัวเองไปยืนอยู่บนเวทีโลก มันคงไม่ใช่ความฝันแค่ของตัวเอง แต่เป็นความฝันของคนที่ท่านรักด้วย และแน่นอนเป็นความฝันของคนไทยทุกๆ คน ซึ่งการดำเนินงานด้านกีฬาทั้งหมดจะนำโดยผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการด้านกีฬาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ ซึ่งจะรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ของมวยไทย
การที่จะบอกว่ามวยไทยเป็นโอลิมปิกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐบาลเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปอย่างแน่นอน เราจะต้องสร้างรากฐานมาตรฐานต่างๆ ให้มวยไทยมีรากฐานที่มีการยอมรับที่ชัดเจนขึ้น เราจะตั้งสถาบันมวยไทยแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์กลางของการสร้างมาตรฐาน
มีหลักสูตรมวยไทยที่ชัดเจนเป็นระบบ และมีความรู้ที่ให้ชาวต่างชาติเข้ามาดูมวยไทย จะได้ความรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับมวยไทยไปด้วย เหมือนที่ประเทศเกาหลีใต้ที่มีโค้ชเช หรือ เช ยองซอก ที่มาเป็นโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ในอนาคตจะมีการวัดระดับมวยไทย เพื่อวัดองค์ความรู้ให้กับวงการ
นอกจากนั้นจะยกระดับอาชีพครูมวยไทยให้มีใบประกอบวิชาชีพ และพัฒนาองค์ความรู้ทั้งระบบ ทั้งเรื่องของการสอนมวยและค่ายมวย รวมถึงการจัดแข่งขันมวยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ถือเป็นการสื่อสารจากหนึ่งกีฬาของไทยสู่สายตาโลก ตนและนายกฯ มีโอกาสไปดูเวทีมวยวันแชมเปี้ยนชิพ ที่สนามมวยลุมพินี ได้เห็นฝีมือคนไทยมาแล้วถือว่าเก่งมาก
“เราจะทำค่ายมวยไทยในต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 40,000 ค่ายมวยแล้ว เราอยากให้มีมากกว่านี้ โดยมีระบบจัดสรรให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญรัฐบาลมองเห็นว่ามวยเป็นการกีฬาของไทยที่โดดเด่น จึงอยากจะให้เป็นศูนย์กลางของการกีฬาที่จะได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทย
ไม่ว่าจะเป็นการไหว้ครู รวมถึงเสื้อผ้าให้เป็นการส่งออกวัฒนธรรมได้ มวยถือเป็นอาวุธสำคัญทำให้ต่างชาติรักเมืองไทยได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลได้มองเห็น เราจะพัฒนาทั้งระบบให้มากขึ้น และเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น” น.ส.แพทองธาร กล่าว
จากนั้น บัวขาว บัญชาเมฆ ได้มอบกางเกงนักมวยและนวมให้กับนายกฯ เป็นที่ระลึก รวมถึงได้มอบของที่ระลึกให้กับน.ส.แพทองธาร และพล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ ด้วย ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับนายกฯ ได้มอบลายเซ็นบนนวมให้กับนักมวยค่ายบัญชาเมฆ เชียงใหม่ด้วย