กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันรายภาค เตือน 23-27 ม.ค. ประเทศไทย มีฝนฟ้าคะนอง อุณหภูมิลด 1-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ
วันที่ 21 ม.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยาการณ์อากาศ 7 วันรายภาค ระหว่างวันที่ 21-27 ม.ค.2567 ช่วงวันที่ 21–22 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
ในขณะที่ลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
หลังจากนั้นบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่าง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ข้อควรระวัง
ออกประกาศ 21 มกราคม 2567 12:00 น.
คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 21 – 27 มกราคม พ.ศ. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 21–22 ม.ค. 67
ตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13–18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30–34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 5–15 กม./ชม.
ตอนล่างของภาค อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18–23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–15 กม./ชม. บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 23–25 ม.ค.67
อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10–20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 14–20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27–32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10–25 กม./ชม. บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส
โดยช่วงวันที่ 26–27 ม.ค.67
อากาศเย็นถึงหนาวมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20–30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 15–21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28–34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 21–22 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17–22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30–35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10–15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 23 – 25 ม.ค. 67
อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2–4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 14–18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26–31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15–35 กม./ชม.
โดยช่วงวันที่ 26–27 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10–20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 16–20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28–32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15–30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ช่วงวันที่ 21–22 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนล่าง อุณหภูมิต่ำสุด 20–24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5–15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 23-25 ม.ค.67
อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10–30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19–21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29–30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10–25 กม./ชม.
โดยช่วงวันที่ 26–27 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1–2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20–22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 23-25 ม.ค. 67
อากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20–25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30–32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
โดยช่วงวันที่ 26–27 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1–2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 21–22 ม.ค. 67
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23–25 ม.ค. 67
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
โดยในช่วงวันที่ 26–27 ม.ค. 67
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20–27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29–35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 21–22 ม.ค. 67
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10–20 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 23–27 ม.ค. 67
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20–40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 22–28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30–35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 21-22 ม.ค. 67
มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5–15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 23-25 ม.ค. 67 อ
ากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20–40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20–25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-25 กม./ชม.
โดยช่วงวันที่ 26–27 ม.ค. 67
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.