พ่อตะวัน ยื่นคำร้องศาลอาญา ขอปล่อยชั่วคราว ลูกสาวเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ยอมรับพฤติกรรม-วาจาไม่เหมาะสม ถ้าได้ประกันไม่ให้ไปยุ่งการเมือง
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีที่ พนักงานสอบสวน สน.ดินแดน ยื่นคำร้อง ฝากขัง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน อายุ 22 ปี นักเคลื่อนไหวกลุ่มทะลุวัง และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-2 ข้อหาว่า มาตรา 116, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
และร่วมกันกระทำด้วยประการใดอันเป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ, ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร
กรณีเหตุการณ์ที่ น.ส.ทานตะวัน หรือ ตะวัน ที่ร่วมกับ นาย ณัฐนนท์ หรือ แฟรงค์ นักเคลื่อนไหวกลุ่มทะลุวัง พยายามขับรถแซงขบวนเสด็จบนทางด่วน พร้อมบีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จผ่าน และใช้ถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาศาลมีคำสั่งให้ฝากขังและไม่ให้ประกันในคดี
ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ น.ส.ทานตะวัน มายื่นขอให้ศาลอาญาพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวทั้ง 2 คน
นายสมหมาย เปิดเผยว่า เมื่อวานไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พบว่านายณัฐนนท์มีร่างกายที่แย่มาก ร่างกายขาดน้ำและขาดอาหาร เบลอไปหมด พูดไม่ได้ ส่วนอาการของน.ส. ทานตะวัน ร่างกายเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก การพูดจาสามารถทำได้เพียงแค่กระซิบ แทบจะไม่ได้ยินเลย
ถ้าปล่อยต่อไปให้เป็นเช่นนี้ อีกไม่กี่วันไม่แน่ใจว่า จะรักษาชีวิตไว้ได้หรือไม่ ทั้ง 2 คนไม่มีแรงแม้กระทั่งจะฝากบอกอะไรมา เลยมาขอความเมตตาจากศาล ให้ปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อออกมารับการรักษา โดยครั้งนี้เป็นการยื่นขอประกันครั้งที่ 3 จึงหวังว่าศาลจะเมตตา
นอกจากนี้ ยังชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุทั้ง 2 คนไปร่วมงานศพของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มทะลุฟ้าคนหนึ่ง ซึ่งขากลับขึ้นทางด่วนแล้วไปเจอขบวนเสด็จโดยบังเอิญ ไม่ได้มีเจตนาหรือวางแผนเพื่อไปก่อเหตุป่วนขบวนเสด็จแต่อย่างใด เพราะคนทั่วไปไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เส้นทางเสด็จจะใช้เส้นทางใดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาที่ระหว่างเดินทางอยู่จะไปเจอขบวนเสด็จ อีกทั้งขบวนเสด็จใช้ความเร็ว ไม่มีทางที่จะขับรถตามไปป่วนได้ทัน
“แต่ยอมรับว่าเด็กทั้ง 2 คนมีพฤติกรรมและใช้วาจาไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ แต่การการกล่าวหาดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่เกินความเป็นจริง ลำพังเด็กทั้ง 2 คนจะไปทำอะไรได้ เพราะถ้ามีการใช้ความรุนแรงจริง เจ้าหน้าที่ก็สามารถดำเนินการขั้นเด็ดขาดขณะเกิดเหตุได้ทันที อีกทั้งยังให้คำมั่นว่า หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จะดูแลลูกไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองอีก จะให้ใช้ชีวิตตามประสาวัยรุ่น และเรียนให้จบต่อไป” นายสมหมาย กล่าว
ด้าน นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ กลุ่มทะลุวัง ซึ่งมาให้กำลังใจ เปิดเผยว่า คดีที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งจะครบฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ในเร็วๆนี้ ต้องดูว่าพนักงานสอบสวนจะยื่นฝากขังผลัดที่ 2 ต่อหรือไม่ ซึ่งในคดีนี้พนักงานสอบสวนให้เหตุผลคัดค้านประกันตัวว่า ผู้ต้องหาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือหลบหนีได้
ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง 2 ไม่ได้มีเจตนาหลบหนี และไม่เคยไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานแต่อย่างใด จึงไม่เห็นความจำเป็นที่พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน วันนี้จึงมาให้กำลังใจให้นายสมหมาย เพราะรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงอยากให้ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว