เปิดสาเหตุ รถแสวงบุญลง เขาคิชฌกูฏ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวม 10 ราย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน เจ้าหน้าที่เร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 29 ก.พ.2567 ศูนย์วิทยุกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี รับแจ้งเหตุมีรถวินรับส่งผู้แสวงบุญ นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทหลวงบนยอดเขาคิชฌกูฏ อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี พลิกคว่ำระหว่างลงจากเขาเพื่อส่งผู้โดยสารไปที่คิวรถวัดพลวง มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นคนไทย 6 คน และชาวรัสเซีย 3 คน และเสียชีวิต 1 ราย
จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสอบสวน สภ.คิชฌกูฏ ทีมแพทย์พยาบาลฉุกเฉินบริเวณลานรถรับส่ง และจุดรับส่งระหว่างทางขึ้นเขา โรงพยาบาลใกล้เคียง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- อ่านข่าว : ด่วน รถแสวงบุญลงเขาคิชฌกูฏ แหกโค้งพลิกคว่ำดับ1 บาดเจ็บ9 มีต่างชาติด้วย
- อ่านข่าว : เปิดรายชื่อ ผู้เสียชีวิต-คนเจ็บ รวม 10 ราย เหตุสลดรถแสวงบุญลงเขาคิชฌกูฏคว่ำ
ที่เกิดเหตุพบมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทางทีมแพทย์ฉุกเฉินและทีมกู้ชีพกู้ภัย ได้ประเมินอาการ และปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น พบผู้บาดเจ็บต้องพาไปทำการรักษา 9 ราย อีก 3 รายบาดเจ็บเล็กน้อย จึงลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งต่อมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเขาคิชฌกูฏ, โรงพยาบาลพระปกเกล้า, โรงพยาบาลมะขาม, โรงพยาบาลสิริเวช และโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการตรวจสอบรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น มีรายละเอียดดังนี้ ผู้โดยสาร 10 คน ประกอบด้วย คนไทย 7 คน และ รัสเซีย 3 คน
- น.ส.ยุพเรศ อายุ 28 ปี ชาวจันทบุรี (เสียชีวิต)
- น.ส.นฤมล อายุ 30 ปี (ส่งโรงพยาบาลพระปกเกล้า)
- นายพสิศฐ์ อายุ 28 ปี
- นางสุรัตนา อายุ 32 ปี
- น.ส.วิมล อายุ 23 ปี
- นายธานี อายุ 24 ปี
- นายวชิรวิชญ์ อายุ 29 ปี
- นาง Lilila อายุ 59 ปี ชาวรัสเซีย (ส่งโรงพยาบาลสิริเวช)
- นาง Ahiia อายุ 60 ปี (ชาวรัสเซีย)
- นาย Khammatov อายุ 54 ปี (ชาวรัสเซีย)
ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กำชับ น.ส.ธิติกมล สุขเย็น นายอำเภอเขาคิชฌกูฏ นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ และคณะกรรมการวัดพลวง ดูแลเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด
ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เนื่องจากช่วงเช้ามีน้ำค้าง ทำให้ถนนลื่น เป็นเหตุให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ ทั้งนี้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป